Frozen Irkutsk Russia (2)

3 Febuary 2018

ติดตามตอนแรกได้ที่

Frozen Irkutsk Russia (1)
http://somersetmghm.blogspot.com/2018/03/frozen-irkutsk-russia.html 


วันที่สามของการเดินทาง  วันนี้เราจะออกจากเมือง Irkutsk เดินทางไปยังเมือง Listvyanka เมืองปากแม่น้ำ Angara ที่ไม่ใช่จุดที่แม่น้ำ Angara ไหลลงทะเลสาบไบคาล แต่กลับกัน เป็นจุดต้นแม่น้ำ Angara ที่ไหลออกจากทะเลสาบไบคาล แม่น้ำ Angara ไหลไปทั่วภาคตะวันออกไซบีเรีย และเป็นเพียงแม่น้ำแห่งเดียวที่ไหลออกจากทะเลสาบไบคาล นอกจากนี้ยังเป็นแควที่ใหญ่ที่สุดของ Yenisei มีความยาวหนึ่งพันเจ็ดร้อยเจ็ดสิบเก้ากิโลเมตร

 เช้านี้มีเวลาเล็กน้อย ก่อนรถจะมารับเพื่อเดินทางไปยังเมือง Listvyanka  จึงขอถือโอกาสออกไปเดินชมเมืองอีกสักหน่อย เช้าวันนี้ที่ Irkutsk อุณหภูมิลดต่ำกว่าเมื่อวาน -26C ดังนั้นต้องเตรียมพร้อมป้องกันตัวเองให้เต็มที่ ถึงบนรถจะอบอุ่นจากฮีทเตอร์ที่คนขับรถเปิดในรถ  แต่ตอนลงรถต้องพร้อม 

 จาก Irkutsk ถึง Listvyanka ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบ 2 ชม. 

 

เราเดินทางมาถึง  Listvyanka ประมาณตอนเที่ยง แวะทานอาหารริมฝั่งแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งหมดแล้ว จะเห็นนักท่องเที่ยวนิยมลงไปเดินเล่นในแม่น้ำที่แข็งแล้ว

ที่พักวันนี้อยู่ไม่ไกลจากชายหาดนัก ชื่อ Ersi  https://goo.gl/maps/gcmk2L7fC232 เป็นสไตล์แบบรีสอร์ทกึ่งโรงแรม มีบ้านเป็นหลังๆ ภายในบ้าน 1 หลังเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่นพร้อมเตาผิงและห้องน้ำ ชั้นบนเป็นห้องนอน หลังละ 2 คน ค่าที่พักค่อนข้างแพง เราไปถึงเกือบบ่ายกว่าๆ ทางที่พักยังไม่ให้เข้าพักแจ้งว่ายังทำความสะอาดไม่เสร็จ

เมื่อเข้าที่พักไม่ได้ เราจึงเดินทางไปยัง Baikal Dog Sledding Centre  เพื่อลิ้มลองประสบการณ์การนั่งหมาลากเลื่อน จำไม่ได้ว่าค่านั่งหมาลากเลื่อนเท่าไหร่ แต่แพงพอควร  สภาพในศูนย์ เราจะเห็นเพิงที่พักของหมาแต่ละตัวแบบบ้านหมาทั่วไป หมาบางตัวก็ขดตัวอยู่ในเพิง บางตัวก็ออกมานั่งเดินหน้าเพิง อย่าลืมว่าตอนนี้อุณหภูมิลบ20 กว่าๆ เราก็ไม่แน่ใจว่าเป็นปกติของการเลี้ยงหรือไม่ แต่ก็สงสารว่าเหล่าสุนัขเหล่านี้น่าจะมีที่นอนที่อบอุ่นกว่านี้  บางตัวน้ำลายไหลยืดจับตัวเป็นก้อนน้ำแข็งตามมุมปาก  บางตัวไม่สบายนั่งตัวสั่นเทา

 แต่ก็ดูหมาเหล่านี้คึกดี กระโจนอยากจะลากเลื่อนมาก ได้แต่สังเวชตัวเอง ว่าเราเพียงต้องการความสนุกก็ทรมานสัตว์ แม้ว่าแท้จริงของสุนัขลากเลื่อนคือวิถึชีวิตของคนที่นี่ ที่เดินทางบนหิมะโดยการใช้สุนัขลากเลื่อนก็ตาม

จ่ายเงินไปแล้วจะมามัวปลงสังเวชไม่ได้ ถึงคิวที่จะได้นั่งบนเลื่อนซักที วิธีนั่งคือนั่งราบบนเลื่อนจะเหยียดขา หรืองอขาก็ตามถนัด คนขับจะยืนอยู่หลังเลื่อน  ด้านหน้าจะมีฝูงสุนัขที่ฝึกมาอย่างดีประมาณ 10  ตัว ระยะทางวิ่งรอบศูนย์ประมาณ 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาทีต่อรอบ เส้นทางขึ้นเนินบางแต่โดยรวมไม่โหดนัก ทำให้เราสามารถใช้มือนึงจับเลื่อนไว้ และใช้อีกมือกดชัตเตอร์ภาพไปตลาดทาง เป็นประสบการณ์ที่ขอแค่ครั้งเดียวพอแล้ว

ออกจาก  Baikal Dog Sledding Centre ยังทันเก็บภาพพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำ Angara ที่เป็นน้ำแข็งทั้งแม่น้ำ  แยกย้ายกันเดินตามอัธยาศัย บางคนก็แวะร้านค้าข้างทางซื้อของที่ระลึก  บางคนก็ลงไปเดินในแม่น้ำที่เป็นน้ำแข็งถ่ายรูปกัน ส่วนเราเดินไปยังตลาดปลา เป็นตลาดเล็กๆของที่ขายส่วนใหญ่ คือ ปลาโอมุลแห่งทะเลสาบไบคาล นอกจากปลาสดๆที่วางแข็งโป๊กบนโต๊ะ หากอยากทานก็มีปลาโอมุลนึ่งร้อนๆอยู่ในกล่องโฟมให้ซื้อทานได้ทันที รสชาดอร่อยหรือไม่ดูซากที่เหลือจากในภาพได้

 ออกมาจากตลาด ก็เป็นเวลาเย็นที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับลา สะท้อนพื้นน้ำแข็งสีสันสวยงาม 

มืดแล้ว ก็ได้เวลากลับเข้าที่พัก เรามาถึงที่พักประมาณเกือบทุ่ม และเราก็พบว่าห้องล้อบบี้ปิด ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่สักคน รอบด้านเงียบ แล้วเราจะเข้าที่พักอย่างไร ดีว่าตอนบ่ายเราพอจะทราบเลขห้องว่าได้พักห้องใดบ้าง จึงเดินไปดูตามเลขห้อง จึงเห็นกุญแจเสียบคาประตูห้องไว้ แต่ก็ทุลักทุเล เพราะมีบางห้องไขกุญแจเปิดห้องไม่ได้ กุญแจมีปัญหาต้องเสียเวลาแก้ไขงัดกันเล็กน้อย  ถึงแม้สภาพห้องจะดูดี แต่การบริการห่วยมากๆ  และห้องใหญ่ที่พัก 6 คน ชั้นล่างหนาวมากไม่มีฮีทเตอร์ป้องกันความหนาวระดับติดลบ  และที่นอนผ้าห่มก็ไม่หนาพอ สงสารคนที่ต้องนอนห้องนี้ บ่นว่าหนาวมากๆ

เท่านั้นยังไม่พอ ตอนจองราคาค่าห้องรวมอาหารเช้า แต่เราก็พบว่าเช้าแล้วก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เลย สักพักจึงมีเจ้าหน้าที่มาทำงาน พอถามเรื่องอาหารก็แถ บอกว่าไม่มี ต้องเอาเอกสารยืนยันการจองมายัน จึงเลี่ยงไปตอบว่า คนทำครัวป่วย และไม่คิดจะขอโทษหรือคืนเงินแต่อย่างใด ปัญหาเรื่องการสื่อสารที่คุยกันไม่รู้เรื่องและเจ้าหน้าที่ก็ทำท่าไม่สนใจไม่ยอมคุยอะไรด้วย

เราทำได้แค่รายงานให้ Booking.com ทราบ คงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพื่อมิให้เสียอรรถรสในการเดินทาง จึงตัดปัญหาไป เป็นขำๆกันในหมู่เพื่อนฝูง และให้กำลังใจคนจองว่าอย่าคิดมาก ปัญหาแค่นี้เล็กน้อย เรายังมีเสบียงจากเมืองไทย โจ๊ก ม่ามา ขนมปัง และผลไม้ที่ซื้อติดมือกันมาทานแทนมื้อเช้าได้ 

จากนี้เราจะเดินทางต่อไปยัง เกาะ Olkhon เกาะใหญ่กลางทะเลสาบไบคาล  ระยะทาง 362 กม. ใช้เวลาเดินทาง 5.30 ชม.  วันที่สี่ จึงเสียเวลาเกือบทั้งวันไปกับการเดินทาง 

แวะทานอาหารข้างทาง ทุลักทุเลกับการสั่งอาหาร เพราะคนที่นี่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักคำ และหน้าตาบึ้งตึงเหมือนไม่อยากบริการ  เราจึงได้แต่ชี้ซากอาหารของโต๊ะข้างๆ และขนมปังที่วางขายบนเคาเตอร์ จึงทำให้ผ่านมื้อเที่ยงไปได้ 

มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่น่าจะเล่าสู่กันฟัง ตอนขึ้นรถตู้ คนขับได้บอกให้พวกเราทุกคนรัดเข็มขัดที่นั่ง ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่ก็ปฏิบัติตาม แต่ก็มีบางคนลืม ซึ่งเราก็คิดว่าคงไม่มีอะไร  แต่เราก็พบว่ามันคือปัญหาใหญ่ทีเดียว เมื่อผ่านด่านลอยที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอด เค้าก็ขอดูบัตรของคนขับ พูดคุยเรื่องเส้นทางกฎระเบียบไรกัน และก็เหลียบตาดูบรรดาผู้โดยสารในรถ แต่ตาไวมากที่เห็นว่ามีบางคนไม่ได้รัดเข็มขัด  เท่านั้นก็เป็นเรื่องใหญ่เพราะผิดกฎหมายของที่นี่ คนขับและตำรวจคุยกันอย่าเคร่งเครียดพักใหญ่ๆ ในที่สุดตำรวจก็เขียนใบสั่งปรับกันสดๆตรงนั้น 1,000 R พร้อมถูกบันทึกประวัติด้วย

พวกเราก็ได้แต่ขอโทษคนขับ และจ่ายค่าปรับคืนให้คนขับแทน พร้อมๆกับความสำนึกผิดของคนที่ลืมคาดเข็มขัด

เกือบบ่ายสี่โมงเย็น เราจึงเดินทางถึงท่าเรือเฟอรี่ Ferry 'MPC - Olkhon "  https://goo.gl/maps/1jvTupRDBoL2   เพื่อข้ามไปยังเกาะ Olkhon  ท่าเรือ Olkhon Ferry ระยะทางสั้นๆ แค่ไม่ถึง 5 นาที

จากท่าเรือ มีรถตู้คันใหม่มารับพวกเราพร้อมสัมภาระ เพื่อเดินทางไปด้านเหนือของเกาะ ไปยังหมู่บ้าน Khuzhir ระยะทางประมาณ 35 กม. แต่เส้นทางโหดมาก เพราะเป็นถนนดินที่ผ่านการใช้งานอย่างต่อเนื่อง สภาพถนนจึงเป็นหลุมเป็นบ่อ กระเด็นกระดอนกันไปชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงที่พักชื่อ Usad'ba Kopylova เป็นโรงแรมกึ่งรีสอร์ท ห้องพักมีห้องน้ำในตัว และมีฮีทเตอร์ให้ความอบอุ่นพอควร แต่ก็มีพวกเราบางคนแอบบ่นว่า ให้ความอบอุ่นไม่พอที่จะต่อสู้กับอุณหภูมิที่ติดลบเกือบ 30C ในตอนกลางคืน

 

หลังจากเข้าที่พัก ทานอาหารเย็น และออกมาเดินเล่นที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆที่พัก เราก็พักผ่อนเพื่อออกเดินทางในวันพรุ่งนี้แต่เช้ามืด

ติดตามชมความงามของทะเลสาบไบคาลได้ในตอนต่อไป

 https://somersetmghm.blogspot.com/2018/03/frozen-irkutsk-russia-3.html