Monday, 10 June 2024

Zhangjiajie-Furong-Fenghuang #6

 ประตูสวรรค์ เทียนเหมินซาน (The Heaven’s Gate of Tianmen Shan)


ผ่านไปแล้ว 5 ตอน อ่านย้อนหลังได้ที่

ตอนที่ 1 Changsha เริ่มต้นทริป

ตอนที่ 2 เมืองโบราณเฟ่งหวง ( Fenghuang)

ตอนที่ 3 เมืองโบราณฟู่หรง (Furong Ancient Town)

ตอนที่ 4 สะพานกระจกจางเจี่ยเจี้ย ( Zhangjiajie Grand Canyon )

ตอนที่ 5 หุบเขาอวตารจางเจี่ยเจี้ย ( Zhangjiajie National Forest Park )

ตอนที่ 6 ประตูสวรรค์เทียนเหมินซาน (The Heaven’s Gate of Tianmen Shan)



เขาเทียนเหมินซาน หรือ ประตูสวรรค์ (The Heaven’s Gate of Tianmen Shan) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในเมืองจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน เป็นหนึ่งในภูเขาที่สวยที่สุดในประเทศจีน และที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย โดยส่วนที่สูงที่สุดมีความสูงถึง 1,518.6 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ลักษณะเป็นภูเขาที่มีความแปลกตรงที่มีช่องขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากการระเบิดเองตามธรรมชาติ เมื่อมองจากด้านล่างก็ดูเหมือนเป็นประตูขึ้นสู่สวรรค์

การขึ้นไปยังช่องเขา มีบันไดจำนวน 999 ขั้น ทอดตัวยาวราวกับประตูสวรรค์ หากเดินขึ้นและเดินลงก็จะรวมเป็น 1,998 ขั้น ไม่ห่างกันทางด้านซ้ายมือเพื่อขึ้นไปยังถ้ำประตูมีธารน้ำตก

การเดินทางมายังประตูสวรรค์ มีหลายเส้นทาง เส้นแรกคือเดินทางโดยรถบัส ผ่านถนนที่เลี้ยวไปตามสันเขา 99 โค้ง จึงมาถึงเชิงทางขึ้นประตูสวรรค์ แล้วจึงเดินขึ้นบันใดอีก 999 ขั้น


กับอีกวิธีคือ นั่งเคเบิลคาร์ จากในเมืองจางเจี่ยเจี้ย มายังยอดเขาด้านบนของประตูสวรรค์  เป็นเส้นทางกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก ระยะทางกว่า 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที ตลอดเส้นทาง จะได้ชมทัศนียภาพของวิวทิวทัศน์ที่งดงามตลอดทาง


แน่นอนพวกเราเหล่า สว. เลือกเส้นทาง A คือการนั่งเคเบิ้ลคาร์ตั้งแต่ในเมือง มาลงยังยอดเขา แล้วค่อยไต่บันใดประตูสวรรค์กลับลงมา


เราออกเดินทางจาก หวู่หลิงหยวนแต่เช้า  เรียกแท๊กซี่เข้ามาในเมืองจางเจี่ยเจี้ย  เราจองที่พักใกล้ๆกับสถานีรถเคเบิ้ลคาร์ หลังจากฝากกระเป๋าเดินทาง ก็ออกมาหาอาหารเช้ารับประทานกัน  







หลังทานอาหารเสร็จ จึงเดินเข้าสถานีเพื่อยืนยันตั๋ว ที่เราซื้อล่วงหน้ามาจากเมืองไทย  ตอนซื้อเราเลือกช่วงเวลาการนั่งรถเช้าไว้ตอน 12.00 น. เพราะกลัวว่าจะเดินทางมาไม่ทัน  แต่เอาเข้าจริงมีเวลาเหลือเฟือเลย  ตอนยืนยันตั๋ว ได้ขอเลื่อนเวลาในตั๋วให้เร็วขึ้น แต่ จนท. บอกว่าไม่สามารถเลื่อนเวลาให้ได้ แต่ออกตั๋วจริงให้ได้เลย   

ดังนั้นจึงได้แต่ใช้เวลาไปเดินเล่นรอบๆที่พัก มองหาร้านอาหารเหมาะๆที่จะทานกันตอนเย็น และกลับมานั่งรอที่โรงแรม 




ในที่สุดพวกเราก็มั่วผ่านประตูขึ้นเคเบิ้ลคาร์ได้ก่อนเวลา อาจเพราะมีนักท่องเที่ยวน้อยก็เป็นได้  









ถึงจะใช้เวลานานถึง 40 นาที แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ สมกับฉายาภูเขาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ภูมิประเทศรอบๆสวยงามมาก 






เคเบิ้ลคาร์มาจอดส่งที่บนยอดสูงสุด  เมือออกมาแล้ว มีเส้นทางให้เดินบนยอดเขาเป็นวงกลม ถ้าเราไปทางตะวันออก จะไปยังวัดเทียนเหมินซาน ซึ่งสามารถเดินไปก็ได้ หรือจะนั่งกระเช้าแบบกระเช้าที่ขึ้นสกีรีสอร์ทก็ได้  ถ้าไปทางตะวันตก ก็จะไปยังจุดชมวิวยอดเขา และไปยังลิฟต์ที่จะลงมายังโถงประตูสวรรค์  

พวกเราเลือกมาทางตะวันตก เดินเลียบทางเดินที่ทำเลียบหน้าผามาเรี่อยๆ 





เดินลงบันใดเลื่อนที่ยาวมากกกก เป็นบันใดหลายครั้งมาก  จนมาถึงโถงถ้ำส่วนที่เรียกว่าประตูสวรรค์ ซึ่งไม่รู้สึกรับรู้ว่าสวยงามอย่างไร เพราะเป็นตัวอาคารครอบไว้ ทางเดินนำเรามายังจุดลงบันใด ซึ่งสามารถมองเห็นบันใดทางลงที่สุงชัน เราต้องลงเดินลงไป 999 ขั้น  แค่เดินลงอย่างเดียวยังขาสั่นเลย แล้วคนที่เดินขึ้นมาและเดินลง จะเป็นอย่างไรนะ ไม่อยากคิด


 





เดินลงกันไป พักไป ถ่ายภาพกันไป ตอนพักบางคนก็นั่งพักตามขั้นบันใดนั่นแหละ ไม่มีใครว่าใคร เพราะทุกคนก็เหนื่อยเหมือนๆกัน แล้วแต่ว่าใครจะอึดกว่าใคร  พวกเราผ่านความโหดของหุบเขาอวตารกับแกรนด์แคนย่อน มาแล้ว ตรงจุดนี้เลยไม่มีปัญหา ค่อยๆเดินไต่ลงมาเรื่อยๆแบบไม่เร่งรีบ จนถึงด้านล่างเชิงบันใด

 

 










เดินเลาะทางเดินริมหน้าผาไปยังสถานีเคเบิลคาร์ เพื่อกลับมายังเมืองจางเจี่ยเจี้ย  





 


บันทึกการเดินทางเส้นทาง จางเจี่ยเจี้ย - ฟูหรง - เฟ่งหวง ได้สิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านี้ ได้การเดินทางสำหรับเมืองจีนที่พึงเปิดให้ฟรีวีซ่า สำหรับคนไทย ยังมีอีกหลายเส้นทางที่น่าสนใจให้ไปเที่ยวชม  นอกจากเส้นทางในทริปนี้แล้ว เส้นทางที่ผ่านที่เคยไปแล้ว สามารถติดตามอ่านย้อนหลับได้นะคะ

คุนหมิง ต้าลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า Kunming-Dali-Lijiang-Shangrila (1)

สำหรับอันดับต่อไปที่วางแผนไปคือ เฉินตู - จิ่วจ่ายโกว ในเดือน พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ ติดตามกันได้นะคะ  

ขอบคุณทุกๆท่าน ที่ผ่านมาเยี่ยมชมค่ะ



No comments:

Post a Comment

ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......