30 Nov - 10 Dec 2023
ติดตามตอนก่อนหน้านี้
ตอนแรก Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่1 ( Seoul เดินทางวันแรก ) (somersetmghm.blogspot.com)
ตอนที่ 2 Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่2 ( ปูซาน ) (somersetmghm.blogspot.com)
ตอนนี้เป็นวันที่ 4 ของการเดินทาง เรายังอยู่ที่ปูซานอีก 2 วัน
วันที่ 4 - 3 ธันวาคม 2566
วันนี้ปรับแผนไปเที่ยวชมหมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน (Busan Gamcheon Culture Village) เป็นหมู่บ้านที่เกิดจากการตั้งรกราก ย้ายถิ่นฐานของชาวเกาหลี ซึ่งหนีภัยจากสงครามเกาหลี ในระหว่างปี ค.ศ. 1950 -1953 และอาศัยอยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยลักษณะการสร้างบ้านเรือนผ่านถนนทุกสาย ที่เรียงรายไปตามแนวภูเขา จนเป็นขั้นบันไดที่เป็นระเบียบ และดูสวยงามแปลกตา ไปกับสีสันที่สลับไปมาของตัวบ้านและหลังคา จึงกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญของหมู่บ้านแห่งนี้ จนได้รับฉายาว่า “มาชูปิกชูแห่งปูซาน” (Machu Picchu of Busan) ในปี ค.ศ. 2015 ศิลปินท้องถิ่นและชาวบ้านในหมู่บ้าน ได้รวมตัวกันในการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมฝาผนัง และผลงานประติมากรรมต่างๆ เพื่อฟื้นฟูคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหมู่บ้าน
ตามถนนเส้นทางของ หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน ยังเต็มไปด้วยสีสันของงานศิลปะ ทั้งบริเวณทางเดิน กำแพง ถนน สี่แยก เป็นต้น ซึ่งที่จริงแล้วในปี ค.ศ.1950 เมือง Gamcheon นั้นแทบเรียกว่าจะเป็นสลัมแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ แต่เมื่อปีค.ศ. 2009 นั้น ได้เกิดโครงการหนึ่งขึ้นในเมืองคือให้นักเรียนศิลปะ และศิลปิน ที่อยากจะตกแต่งเมือง มาเข้าร่วมตกแต่งเมืองใหม่ทั้งเมืองให้เป็นไปตามที่จินตนาการ
เลยทำให้ที่นี่มีทั้ง Korea’s Machu Picchu (bizarre choice), Korea’s Santorini (closer), Sky Garden รวมถึง The Little Prince หรือ เจ้าชายน้อยจากฝรั่งเศส ที่เป็นแลนด์มาร์คในการมาแชะภาพของที่หมู่บ้านนี้ และกลายมาเป็นพิกัดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมาเช็คอินกันอย่างเรื่อยมาจนถึงในปัจจุบัน
การเดินทาง จากโรงแรมที่พัก เรานั่งรถเมลสาย 103 มา 4 ป้าย และต่อรถมินิบัสสีเขียวสาย 2 มาอีก 13 ป้าย มาลงหน้าทางเข้าหมู่บ้าน สะดวกมาก มาเช้าๆคนยังไม่เยอะ เดินสบาย และจุดถ่ายรูปที่คนจะเข้าคิวถ่ายคือ รูปเจ้าชายน้อยนั่งชมวิวหมู่บ้าน ถ้ามาสายคิวจะยาวมาก
จนเกือบเที่ยงจึงได้เดินทางกลับลงมา มาลงรถที่ตลาดปลา Jagalchi Market เพลิดเพลินกับการชมอาหารทะเลสดๆที่วางขายริมทาง สดและราคาจับต้องได้ แต่เราไม่มีครัวจะทำก็ได้แต่มอง แต่ถ้าจะทานกันก็มีในตลาดใหญ่ในอาคาร เข้าขายกันแบบตัวเป็นๆ สดแน่นอน เดินผ่านยังต้องหลบคนขายที่ไล่จับปลาหมึกตัวตัว ที่หนีออกมาจะตู้กระจก แต่ราคาโหดพอสมควร น้องๆเค้าก็เลยเดินผ่านกัน
จากตลาดปลา เดินข้ามฝากมาฝั่งตรงข้ามและถนนคนเดิน Nampo-dong มีอาหารริมทางแบบรถเข็นมากมาย ที่ต้องลองคือ Hotteok เป็นขนมประจำถิ่นปูซาน ลักษณะขนมแป้งทอดสอดไส้น้ำตาลทรายแดงกับชินนามอนทอดด้วยเนย และถ้าเป็นแบบปูซานจะใส่ถั่วเมล็ดพืชต่างๆด้วย กัดเข้าไปแล้วจะได้กลิ่นหอมๆของเนยและชินนามอน พร้อมความกรุบกรอบของถั่ว อร่อยมากๆอยากให้มาลอง แต่ถ้าคนไม่ชอบหวานอาจไม่ชอบเพราะใส้ค่อนข้างหวานทีเดียว
กลับมาพักตั้งหลักที่โรงแรม เราเลือกโรงแรมไม่ผิดเลย ไปไหนมาไหนเหนื่อยก็กลับมาตั้งหลักพักเหนื่อยกันได้ เย็นๆค่อยว่ากันว่าจะไปไหน
บ่ายแก่ๆ ก็ออกมาใหม่ หลังจากหาข้าวเที่ยงควบเย็นทานกัน ประเภทหมูย่าง เราก็นั่งรถเมลสาย 1003 ใช้เวลาเกือบชั่วโมง ไปยัง The Bay 101 ซึ่งไม่เชิงเป็นร้านกาแฟ น่าจะกึ่งพวกสโมสรที่มีทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟ สำหรับคนที่มาเล่นเรือยอร์ช ที่จอดเต็มท่าที่นี่
เดอะเบย์ 101 ปูซาน (The Bay 101, Busan) จุดเช็คอินสุดฮอตที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ในบริเวณ ซึ่งไม่ไกลจากชายหาดแฮอุนแด (Haeundae Beach) ที่นี่นอกจากอาหารและกาแฟอร่อย ยังเป็นจุดนั่งพักชมวิวทะเล ยิ่งช่วงเย็นจะเห็นพระอาทิตย์ตก ที่สะพานควางอันแด-กโย (Busan Gwangandaegyo Bridge) สวยงามมาก
ไฮไลท์อีกอย่างที่จะต้องมาช่วงเย็นและต่อเนื่องไปจนค่ำ เพราะวิวกลางคืนของที่นี่ดึงดูดและน่าประทับใจมาก ด้วยวิวของตึกสูงริมทะเล เมื่อเปิดไฟระยิบระยับสวยงามมาก
วันที่5 - 4 ธค. 2566
คนป่วยหายดีแล้ว วันนี้จะไปไกลไปวัดริมทะเล วัดแฮดงยงกุงซา ( Haedong Yonggungsa Temple, Busan )
Haedong Yonggungsa Temple (해동 용궁사) วัดแฮดงยงกุงซา แห่งนี้ เป็นวัดที่สร้างบนเหล่าโขดหินริมชายหาด ทำให้ดูสวยงามแตกต่างไปจากวัดส่วนใหญ่อื่นๆ ที่มักจะสร้างอยู่ตามเชิงเขา
วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม เหมาะสำหรับการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และมักเป็นสถานที่ ซึ่งเหล่าพุทธศาสนิกชนในเกาหลี พากันมาอธิษฐานขอพรในวาระต่างๆ รวมไปถึงในวันขึ้นปีใหม่ ตามคำขวัญของวัดแห่งนี้ที่ว่า “อย่างน้อยหนึ่งในความปรารถนาของคุณ จะได้รับการตอบรับ ผ่านการสวดอ้อนวอนที่จริงใจของคุณ”
สำหรับในช่วงเดือนเมษายนนั้น วัดจะดูสดชื่นและสวยงามไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่ง จึงเป็นอีกสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมดอกซากุระเกาหลี (Korea Sakura) ที่มีชื่อเรียกว่า “พ็อก-กช (Beojkkoch, 벚꽃)” หรือเชอร์รี่บลอสซั่ม (Cherry Blossom) นอกจากนี้ในวันสำคัญทางศาสนาพุทธ คือ วันวิสาขบูชา ซึ่งวันประสูติของพระพุทธเจ้านั้น วัดแห่งนี้จะถูกประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสี ซึ่งดูสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
การเดินทาง จากโรงแรมที่พัก เรานั่งรถเมลสาย 1003 มาต่อรถที่หน้าสถานีปูซาน เป็นสาย 1001 มาลงหน้าวัด พอมาถึงเด็กหนุ่มๆสาวๆที่มาพากันลงรถหมด เราก็นึกแปลกใจว่าเยาวชนเค้าช่างดีจังมาวัดกันด้วย แต่เปล่าจ้า พวกเค้าพากันเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ที่เป็นที่ตั้งของสวนสนุก Lotte World Adventure Busan เหลือ สว. 5 คน และ นักท่องเที่ยวที่เดินตามหลังมาอีก 2 คน เดินจากป้ายรถเมล เข้าไปประมาณ 800 เมตร ก็จะถึงวัด เข้าฟรีไม่ต้องเสียค่าเข้าชม
ออกจากวัดแล้ว น้องชายชักชวนว่าเราเดินไปเที่ยวที่ เอาเล็ทกันดีกว่า เผื่อได้อะไรติดมือกลับ จากป้ายรถเมลหน้าวัด เดินย้อนลงไปประมาณเกือบ กิโล เดินดูของ ได้รองเท้า แอดดิดาส กันคนละคู่ เค้าลดเกือบครึ่ง แต่ต้องซื้อ 3 คู่ เลยรวมกันซื้อแล้วหารกัน
จากนั้นนั่งรถย้อนกลับมาลงที่ Haeunde Blueline Park - Mipo Station เพื่อนั่งรถไฟน้อย รถไฟสกายแคปซูล สุดคิ้วท์ เป็นพิกัดรถไฟน่ารักๆ ปุ๊กปิ๊ก วิ่งเลียบชายทะเล แต่ช่างโชคร้าย เค้าปิดซ่อมบำรุง เลยอด เหลือแต่รถรางวิ่งเลียบชายทะเล ซึงไม่คุ้มค่าตั๋วเลย จ่ายแพง ที่นั่งก็ไม่ได้นั่ง วิ่งแป๊บเดียวแค่ไม่ถึง 10 นาท ก็ถึงแล้ว จะรีบไปไหนก็ไม่รู้ ถ่ายภาพด้านนอกไม่ได้เลย
เดินเล่นริมทะเลสักพักก็นั่งรถกลับ
ขากลับตั้งใจว่าจะมาเดินถนนคนเดิน แต่รถติดมาก ติดทุกไฟแดงครั้งละนานๆ จนเลิกล้มไม่เดินกันแล้ว กลับมาเก็บของดีกว่า พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับเข้ามายัง โซล
ติดตามได้ตอนต่อไปนะคะ
Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่4 ( Seoul #1) (somersetmghm.blogspot.com)
No comments:
Post a Comment
ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......