Monday 8 July 2024

ตลุยอินโด #5 : Bali

 


ติดตามตอนก่อนๆ

ตลุยอินโด #1 : Yogyakarta 

Somerset's Memories: ตลุยอินโด #1 : Yogyakarta (somersetmghm.blogspot.com)

ตลุยอินโด #2 : Prambanan Temple

Somerset's Memories: ตลุยอินโด #2 : Prambanan Temple (somersetmghm.blogspot.com)

ตลุยอินโด #3 : Borobudur Temple

Somerset's Memories: ตลุยอินโด #3 : Borobudur Temple (somersetmghm.blogspot.com)

ตลุยอินโด #4 : Mt.Bromo 

https://somersetmghm.blogspot.com/2024/07/4-mtbromo.html

ตลุยอินโด #5 : Bali 


ตอนนี้เป็นตอนสุดท้าย สำหรับทริปนี้ เราเดินทางต่อมายังเกาะบาหลี เป็นเกาะที่อยู่ทางตะวันออกของเกาะชวา ข้ามเกาะด้วยการเอารถลงเรือเฟอรี่ข้ามเกาะ กว่าเราจะมาถึงเมือง อุบุด ก็ดึกมากเกือบสว่าง ประมาณตีสามกว่าๆ ยังเข้าที่พักไม่ได้ ก็นั่งหลับรอกันปากทางเข้านั่นแหละ มีร้านเล็กๆริมทางให้นั่งรอ หรือนั่งหลับได้ 





หลังจากเก็บของเข้าที่พัก ก็ออกมาเดินตลาด เก็บภาพและหาอาหารเช้าทานกัน

วิถีชีวิตของคนบาหลี ต่างกับคนในภูมิภาคอื่นๆของอินโด คือคนที่นี่นับถือเทพ ผี ทุกกิจกรรมและการดำรงชีวิต จะรวมการบูชาเทพ ไหว้บรรพบุรุษ ดังนั้นเช้าเราจะเห็นคนที่นี่ นำดอกไม้บูชาเทพ ไหว้บรรพบุรุษ ในตลาดดอกไม้ กระทงต่างๆ จึงเป็นสินค้าขายดีของที่นี่ นอกเหนือจากของอุปโภค บริโภคแล้ว

 



ตลาดอุบุด เป็นตลาดใหญ่ สินค้าส่วนใหญ่ คล้ายคลึงกับบ้านเรา อาจแตกต่างในรายละเอียดบ้างเล็กน้อย เช่น ไก่ บ้านเราจะชำแหละเสร็จแล้ว นำไปปรุงอาหารได้เลย แต่ที่นี่เค้าขายไก่เป็นๆใส่กรงไว้ให้หิ้วไปเชือดเอง 





 

 





 


 



ที่เที่ยวแรกที่อยากจะแนะนำเมื่อมาบาหลี คือ Ulun Danu Beratan Temple วัดอูลันดานูบราตัน สถาปัตยกรรมของบาหลีที่คงความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนๆ วัดริมทะเลสาปปากปล่องภูเขาไฟ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร โดยมีทิวเขา เป็นฉากหลังที่สวยงามตระการตา ตัวภาพของวิหารที่มีหลังคาหลายชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ของบาหลี ช่วยเพิ่มความงามให้กับสถานที่แห่งนี้

วัดอูลันดานูบราตันนี้ สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ราชวงค์เม็งวี เมื่อประมาณปีค.ศ. 1624 ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ทำพิธีทางศาสนาพุทธและฮินดู โดยได้สร้างไว้เพื่ออุทิศแด่ "เทวีดานู" เทพแห่งสายนํ้าท้องทะเลสาบบราตัน เนื่องจากทะเลสาบบราตันเป็นสายน้ำสำคัญในการชลประทานภาคกลางของบาหลี 

สถานที่สักการะกลางแจ้งที่มีกำแพงล้อมรอบ โดยวิหารมีลักษณะเป็นมีหลังคาทรงสูง ที่เรียกว่า เมรุ มุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้น (จำนวนหลังคาสำหรับเทพจะมีจำนวนคี่เสมอ) มีผนังที่ตกแต่งด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง ส่วนลานด้านนอกมีไว้สำหรับฆราวาส




 

 


การเข้าชมวัด ทั้งหญิงทั้งชาย ต้องสวมผ้าถุง หรือ โสร่ง ทับเมื่อเวลาเข้าวัดทุกวัดในบาหลี  หลังสุดที่ไปมา มีการผ่อนปรนให้ คนทึ่ใส่กางเกงขายาว หรือ กระโปรงยาวเข้าได้โดยไม่ต้องนุ่งผ้าถุงหรือโสร่งทับ


 

Besakih Great Temple “วัดหลวง” ที่ใหญ่ที่สุด เก่าแก่ที่สุด ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของเกาะบาหลี  ซึ่งถือเป็น “Mother Temple” หรือวัดแม่แห่งวัดทั้งปวงบนเกาะบาหลีนั่นเอง

วัด Besakih แห่งนี้ตั้งอยู่เชิงภูเขาอกุง (Mount Agung) ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของเกาะบาหลี และถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ วัดนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดู มีอายุมากกว่า 2,000 ปี  ถูกใช้เป็นวัดหลวงของราชวงศ์ที่ปกครองบาหลีมาโดยตลอด ตัววัดประกอบด้วยวิหารและเจดีย์เป็นจำนวนมากถึง 22 แห่ง สร้างตามไหล่เขาค่อยๆ ลดหลั่นลงมาเรื่อยๆ 

การเข้าเยี่ยมชมที่นี่ นอกจากต้องเปลี่ยนสวมผ้าถุงหรือโสร่งทับกางเกงแล้ว ทางวัดยังมีบริการมัคคุเทศน์พาชมวัด ซึ่งเหมือนกับเป็นภาคบังคับ เพราะภายในวัดมีหลายจุดที่ห้ามคนภายนอกผ่านเข้าไป ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีคนนำทาง เพื่ออธิบายเกี่ยวกับตัววัดและคอยกันหากผ่านเข้าเขตหวงห้าม


 





 






Pura Tirta Empul   วัดศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ ที่ตั้งอยู่กลางเกาะบาหลี วัดเทอร์ตา เอมปูล นี้ สร้างตามความเชื่อของศาสนาฮินดู  รวมไปถึงความเชื่อของคนท้องถิ่นที่นี่  ที่โดดเด่นเรียกได้ว่าเป็น Landmark ของที่นี่คือ บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นเป็นน้ำที่ผุดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยมีต้นน้ำมาจากภูเขาไฟอกุง ภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์ ชาวฮินดูในบาหลีมีความเชื่อกันว่าน้ำในบ่อมีความศักดิ์สิทธิ์ราวกับเป็นบ่อน้ำอมฤต ผู้คนนิยมมาทำพิธีชำระล้างในบ่อน้ำพุของวัด ซึ่งไม่ได้มีแค่คนบาหลีท้องถิ่นเท่านั้นนา แต่ยังรวมไปถึงเหล่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอีกด้วย 

 






ตามความเชื่อ น้ำที่ไหลออกมาจากท่อแต่ละท่อจะมีความหมาย เช่น ชำระโรคภัยไข้เจ็บเป็นต้น  แต่ท่อแรกสำหรับชำระบาปให้กับคนตาย ดังนั้นคนเป็นจึงไม่ควรมาอาบที่ท่อนี้ บางท่ออาจจะหมายถึงโชคลาภ หรือความสวัสดีมีชัยบางประการ จึงมีคนเข้าคิวกันเยอะ



 

 







Penataran Agung Lempuyang Temple วัดสวย ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดใน บาหลี ยามนี้เลยที่เดียว ผู้คนจะมาเข้าคิวเพื่อถ่ายภาพกับซุ้มประตู ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟอกุง และมีภาพสะท้อนน้ำเป็นฉากหน้า หรือที่เรียกกันว่า ประตูสวรรค์(Heaven Gate) คือที่นี่นี่เอง  เนื่องจากคนรอคิวเยอะมาก เพื่อมิให้เสียเวลาจึงมีเจ้าหน้าที่ของวัด เป็นผู้ถ่ายรูปให้ด้วยกล้องมือถือของตัวแบบนั่นเอง และถ้าอยากได้คิวแรกๆควรรีบมาแต่เช้าเพื่อมารับคิว แต่ตอนนั่งรอก็เห็นพวกคณะทัวร์ที่คงจ่ายใต้โต๊ะได้ลัดคิวหลายคณะเหมือนกัน ส่วนเงาสะท้อนน้ำก็เกิดจากทางคนถ่ายเอากระจกสีชามารองด้านล่างของกล้องทำให้เกิดเงาสะท้อนที่สวยงาม

วัดเลมปูยางค์ (Lempuyang Temple) ศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่บนลาดเชิงเขาเลมปูยางค์ สูงประมาณ 600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 6 วัดศักดิ์สิทธิ์แห่งบาหลี 




 


Tirta Gangga Water Palace สวนน้ำหลวง ชื่อของที่นี่มีความหมายว่า น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำคงคา จากความเชื่อตามศาสนาฮินดู มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานจากความเชื่อในศาสนาฮินดูแบบบาหลี โดยภายในประกอบด้วย สระน้ำ 1.2 เฮกตาร์ บ่อน้ำ และ น้ำพุ ล้อมรอบด้วยสวนที่ประดับด้วยหินขั้นบันได รูปปั้น ปะติมากรรมต่างๆ อันสวยงามวิจิตรตระการตา เป็นเหมือนกับที่อาบน้ำของราชวงศ์ 




 



ไฮไลท์อีกอย่างนึงของบาหลี คือความงดงามของนาขั้นบันได ซึ่งเกิดจากการทำนาปลูกข้าวตามไหล่เขา เมื่อข้าวออกรวงจะดูสวยงามเขียวไปทั้งหุบเขา 








Suwat Waterfall น้ำตกริมทางผ่าน เดินเข้าไปง่ายไม่ลึกนัก ร่มเย็น สงบดี



 


 



Campuhan Ridge Walk พวกเราโดนหลอกให้ไปเดินเทรกกิ้ง เดินซะลิ้นห้อย ได้ชมวิวนิดหน่อย ดีว่าเดินไปไม่ไกลมาก สัก 2-3 กม. คนขับรถก็มาตามกลับ ไม่งั้นคงเดินกันไปแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย ที่ว่าโดนหลอกก็ไม่เชิง เป็นการสื่อสารผิดพลาดกับคนขับรถ เค้าคงนึกว่าพวกนี้อยากมาเดินเทรกกิ้ง ส่วนพวกเราก็นึกว่าเดินไปชมวิวเมืองอุบุดสวยๆ ดีว่าคนขับรถคงเห็นท่าไม่ดี รีบวิ่งมาตามกลับ 





Pura Taman Kemuda Saraswati  วัดข้างที่พักของพวกเรา Puri Saraswati Dijiwa Ubud เข้าเที่ยวชมได้ตลอดเวลา แต่นักท่องเที่ยวอื่นๆต้องเข้าตามเวลาที่กำหนด





 




 



แวะร้านกาแฟสักนิด ที่นี่เค้าจะมีกาแฟหลายรสชาด ใส่ถ้วยใบจิ๋ว มาให้ชิมกัน ว่าชอบรสไหน ก็จะชงมาให้ แต่หลังจากชิมทุกรสแล้ว จืดและอร่อยสู้บ้านเราไม่ได้เลย มีดีตรงวิวสวย และมีอะไรให้เล่นเท่านั้นเอง


 




Bali Show โชว์รำแบบบาหลี ต้องซื้อบัตรเข้าชม 





 

 




Uluwatu Temple อูลูวาตูเป็นวัดของศาสนาฮินดู ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน ด้านล่างเป็นทะเล เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวอีกแห่งในบาหลี ยามเย็นสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้ ที่นี่ต้องระวังลิงให้ดี เก็บของให้มิดชิดกันลิงแย่ง โดยเฉพาะแว่นตาลิงจะชอบฉกเป็นพิเศษ











Waterblow จุดชมคลื่นทะเลถาโถมเข้าสู่ฝั่ง กระแทกโขดหิน กระจายขึ้นสูงสู่ท้องฟ้า ตอนที่พวกเราไป โชคไม่ดีคลื่นลมสงบราบเรียบ เลยไม่ได้ชมความงามนั้น








และที่สุดท้ายสำหรับเกาะบาหลี คือ Batu Bolong Temple และ Tanah Lot 

 วัดตานะฮ์ลอต หรือ Pura Tanah Lot เป็นวิหารที่อยู่บนโขดหินริมทะเล  Tanah Lot แปลว่า โขดหิน ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 โดยดัง ฮยัง นีราร์ทา (Dang Hyang Nirartha) หลังท่านได้เดินทางผ่านมาเห็นกับตานะฮ์ลต ท่านได้ตัดสินใจชักชวนกับชาวประมงในพื้นที่สร้างศาลเจ้า เพื่อถวายแด่เทพเจ้าแห่งท้องทะเล หรือ บาตาราเซอการา (Bhatara Segara) ตามความเชื่อของชาวบาหลี 

ส่วนฐานของเกาะนั้นเชื่อว่ามีงูทะเลยักษ์อาศัยอยู่ คอยปกปักษ์คุ้มครองวัดนี้จากวิญญาณชั่วร้าย และผู้บุกรุกต่างๆ ซึ่งปัจจุบันบริเวณที่ฐานของเกาะก็ยังเต็มไปด้วยงูทะเลพิษ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นทวารบาลของปูรา อันเป็นลูกหลานของงูยักษ์นั้นนั่นเอง
















อินโดนีเซีย ยังมีที่เที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจอีกหลายที หวังว่าวันหลังคงได้มีโอกาสมาเยือนอีกสังครั้ง ครั้งนี้ขอจบบันทึกการเดินทาง ตลุยอินโด แต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านแวะเข้ามาเยี่ยมชม


No comments:

Post a Comment

ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......