Monday 10 January 2022

อุบลราชธานี ต่างกรรมต่างวาระ (2)

 


ติดตามโพสต์ก่อนหน้านี้ได้ที่นี่

http://somersetmghm.blogspot.com/2022/01/blog-post_9.html


โพสต์ที่แล้ว เราเที่ยวตะลอนอยู่ในแถบ อำเภอโขงเจียม มีเลยขึ้นไป อ.โพธิ์ไทร เพื่อไปสามพันโบก แต่ อำเภอโขงเจียมยังมีไฮไลท์อีก นั่นคือ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อยู่ห่างจากช่องแม๊กเพียง 6 กม. วัดนี้ถ้าไปตอนกลางวัน ก็สามารถชมวิวแม่น้ำโขงที่เห็นฝั่งลาวตรงช่องแม๊ก ตัวโบสถ์ก็สวยงาม 







ถ้ามีเวลา ก็ขอให้รอจนมืด เราจะเห็นลวดลายบนพื้นรอบๆโบสถ์เรืองแสงสวยงาม





ในตัวเมืองอุบลราชธานี ก็มีวัดที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม คือ วัดพระธาตุหนองบัว 

วัดพระธาตุหนองบัว เป็นที่ตั้งของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ หรือพระธาตุหนองบัว เจดีย์ธาตุขนาดใหญ่ที่จำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ซึ่งสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2500 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนา ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ให้ประชาชนได้สักการะบูชา 






อีกวัดที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันนัก คือ วัดสระประสานสุข หรือ วัดบ้านนาเมือง

วัดสระประสานสุข หรือวัดบ้านนาเมือง ตั้งอยู่ที่บ้านนาเมือง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร ด้านทิศเหนือของสนามบิน เป็นวัดที่มีพระอุโบสถ แปลกตา สร้างเป็นรูปเรือสุพรรณหงส์ประดับตกแต่งด้วยเซรามิค โดยมีอาจารย์บุญมีเป็นเจ้าอาวาส (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว) เป็นที่เคารพนับถือของ ชาว อุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจได้แก่หอระฆังประดับเซรามิค พิพิธภัณฑ์หลวงปู่บุญมี และวิหารกลางน้ำเรือธรรม นาคราช หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าวิหารกลางน้ำที่สร้างไว้กลางน้ำบนพญานาคราชรูปร่างคล้ายเรือ ส่วนหัวเป็นพญานาคราช 5 เศียร ทางเดินเข้าวิหาร กลางน้ำเป็นทางเดินด้านหางนาคราช  ด้านหลังของ วิหารกลางน้ำเรือธรรมนาคราช  ส่วนหางของนาคราชมีทางเดินขึ้นลงแยกจากกัน สามารถเดินเข้า ไปชมภายในวิหารซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ภายใน เป็นที่นิยมของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมวัดที่จะได้ถ่ายรูปกับวิหารกลางน้ำแห่งนี้





พระอุโบสถเป็นรูปเรือสุพรรณหงส์ ก็สวยงามไม่แพ้กัน






ถ้าเป็นสายมู ชอบตระเวณไหว้พระ ก็มีวัดที่ไม่ควรพลาดคือวัดหนองป่าพง 

วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี วัดป่าสายวิปัสสนากรรมฐาน ที่ปฏิบัติบำเพ็ญสมณธรรมของพระธุดงค์กรรมฐานสายพระอาจาย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติ ฝึกฝน อบรมพระภิกษุ-สามเณร ผู้มุ่งสู่ความพ้นทุกข์ ให้เป็นผู้มักน้อย สันโดษ เสียสละ พากเพียรเพื่อมรรคผลนิพพาน และนำพาไปสู่การเป็นสมณะที่งดงาม ด้วยการรักษาวัตรปฏิบัติตามธรรมวินัย อันจะเป็นเหตุให้เกิดความเลื่อมใสแก่ผู้พบเห็น ร่วมประคองค้ำชูพระศาสนาให้มีอายุยืนยาว เจริญรุ่งเรือง กระทั่งต่อมาได้เป็นศูนย์กลางการอบรมสั่งสอน ตามหลักแห่งพระพุทธศาสนา ให้กับนักปฏิบัติธรรมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนเป็นแรงศรัทธาเกิดสาขาขยายไปยังประเทศทั่วโลก



อีกแห่งนึง เป็นวัดที่บังเอิญผ่านจากเส้นทางจากตัวเมืองอุบล ไปยัง อำเภอโขงเจียม 

วัดดอนธาตุ สมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงปู่ดี ฉันโน ตั้งอยู่บนเกาะกลางลำน้ำมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ภายในมีเจดีย์อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล 

ประวัติการสร้างวัด เมื่อปี พ.ศ. 2480 พระครูวิเวกพุทธกิจ (เสาร์ กันตสีโล) และพระอาจารย์ดี ฉันทโร (วัดภูเขาแก้ว) ได้จาริกมาปักกลดกรรมฐานหาที่ดินที่เหมาะสมสำหรับก่อสร้างวัดวิปัสสนากรรมฐานฝ่ายธรรมยุตินิกาย ท่านได้พักอยู่บ้างเป็นครั้งคราวที่วัดดอนธาตุ ในระหว่างปี พ.ศ.2480-2483 และในปีสุดท้าย พ.ศ.2484 ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดดอนธาตุ ก่อนที่จะมรณภาพที่นครจำปาสัก ประเทศลาว










จุดสุดท้ายที่จะแนะนำ คือ น้ำตกห้วยหลวง  ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อยู่ทางใต้สุดของ จังหวัดอุบลราชธานี ติดกับประเทศลาว และ กัมพูชา  

น้ำตกห้วยหลวง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า น้ำตกบักเตว น้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเขาพนมดงรักมีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตอีสานตอนล่าง อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ใกล้ ๆ กันนั้นมีแก่งกะเลา ธารน้ำที่มีน้ำใสสะอาด เป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาธรรมชาติที่สามารถเล่นน้ำและยังมีผีเสื้อมากมายให้ชื่นชม 

น้ำตกห้วยหลวง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่เกิดจากลำธารห้วยหลวง ในเทือกเขาพนมดงรัก อยู่เลยที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย ไปทางใต้ 3.5 กิโลเมตร มีความสูง ประมาณ 45 เมตร ไหลผ่านหน้าผาลงสู่เบื้องล่างมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ พื้นน้ำเป็นสีเขียวมรกตและมีหาดทรายขาว สะอาดเหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำ ด้านบนมีจุดชมทิวทัศน์และถ่ายภาพ ด้านล่างมีบันไดสำหรับขึ้นลงประมาณ 272 ชั้น ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตอีสานตอนล่าง พื้นที่โดยรอบจะมีลักษณะเป็นภูเขาโอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจี ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่ 

ก่อนจะเดินลงบันใด 272 ขั้น ด้านบนเราสามารถเดินไปชมแอ่งน้ำเหนือน้ำตกได้  “แก่งกะเลา” เป็นแก่งหินกลางลำธารห้วยหลวงที่มีธารน้ำไหลแผ่กว้างไปตามลานหิน บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดและหมู่ผีเสื้อที่บินว่อนทั่วบริเวณบริเวณนี้ไม่มีมีนักท่องเที่ยวนัก เพราะส่วนใหญ่จะเดินลงบันใดลงไปด้านล่างกันหมด










ก่อนเดินลงบันใด ก็ยังสามารถมองเห็นตัวน้ำตกได้ชัดเจน


272 ขั้น เดินลงจนขาแทบเดี้ยง ก็ลงมาถึงพื้นทรายด้านล่าง เป็นพื้นทรายที่ขาวสะอาดมาก 







แถมท้าย เส้นทางจากตัวเมืองมาน้ำตกห้วยหลวง เราออกจาก กทม. ตอนเย็น มาเช้าบนเส้นทางนี้พอดี แสงอาทิตย์สีทองอร่ามบนทุ่งนาที่ออกรวงเหลืองพร้อมเก็บเกี่ยว หลังจากพร้อมใจบอกให้คนขับจอด เราก็รีบออกมาเก็บภาพทันที และเหนือความคาดหมาย มีควายนอนแช่ปลักใกล้ พอได้ยินเสียงคนก็ลุกขึ้นดูพวกเรา ตัวควายอุ่นๆกับอากาศยามเช้าที่เย็น ทำให้เกิดควันลอยออกมาจากตัวควาย สวยงามยิ่งนัก ช่วง

เวลานาทีทองผ่านไปเร็วมาก แป๊บเดียวพอพระอาทิตย์สูงขึ้น ก็ไม่สวยแล้ว








ปิดท้ายด้วย พระจันทร์ยามเกิดจันทรุปราคา ถ่ายจากที่พักนอกเมืองอุบล