Wednesday, 2 March 2022

ยกยอปากประ ทะเลน้อย พัทลุง



พัทลุง เป็นจังหวัดเล็กๆในภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 860 กิโลเมตร การเดินทางไปพัทลุงนอกจากขับรถไป หรือไปรถทัวร์แล้ว ยังสามารถไปเครื่องบิน โดยเลือกไปลงที่สนามบินนครศรีธรรมราช หรือ สนามบินหาดใหญ่ และนั่งรถมาที่พัทลุงอีกประมาณ 2 ชั่วโมง

ถ้ามาจาก หาดใหญ่ สงขลา ขอแนะนำให้มาทางเส้นทาง ถนนเลียบชายทะเล 408 มุ่งหน้าไปทาง อำเภอระโนด เข้าเส้นทางถนน 5016 หรือเรียกอีกชื่อว่า ถนนเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ เป็นถนนที่วิ่งเลียบชายฝั่งของทะเลสาปสงขลาทางด้านซ้ายมือ และเลียบทะเลน้อยทางด้านขวามือ ระยะทางประมาณ 15 กม. เป็นถนนลอยฟ้าที่มีทัศนียภาพน่าชมมาก นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆแล้ว เราจะได้เห็น นกน้ำต่างๆ หรือควายน้ำที่ลงหากินกันเป็นฝูง โดยในเส้นทางนี้จะมีจุดให้จอดรถชมวิวเป็นระยะๆ






 ถ้ามาจาก นครศรีธรรมราช ขอแนะนำให้วิ่งมาทางถนนเลียบชายทะเล 4013 จากปากพนัง มาทาง อำเภอระโนด และ เข้าเส้นทางถนน 5016 หรือเรียกอีกชื่อว่า ถนนเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ เช่นกัน  แต่เส้นทาง 4013 นี้ เราจะพบเห็นทุ่งกันหันลมที่ใช้ผลิตไฟฟ้า ตลอดเส้นทาง น่าเสียดายว่าตอนที่ผ่านไปนั้น ฝนตกหนักมาก จึงไม่สามารถหยุดรถลงไปเก็บภาพได้


 

พัทลุงถึงจะเป็นจังหวัดเล็กๆไม่สะดุดตา แต่ก็มีของดีไม่น้อยหน้าจังหวัดอื่นๆเลย 

ที่น่าเชิดหน้าชูตาเป็นพิเศษ และหาดูที่อื่นได้ยาก ก็คือการยกยอหาปลาของชาวประมง ด้านที่ติดกับทะเลสาปสงขลา ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน บริเวณปากแม่น้ำปากประ นั่นเอง

โดยชาวประมงจะทำยอขนาดยักษ์มาวางดักปลาบริเวณปากแม่น้ำปากประ เรียงรายไปหลายสิบอัน ที่สำคัญใกล้กันมีสะพานรถวิ่งข้ามแม่น้ำปากประ เวลาเช้าๆ หมู่ยอเหล่านั้นสะท้อนแสงเงินแสงทอง งดงามยิ่งนัก ทำให้บรรดานักถ่ายภาพทั้งหลายมักจะไม่พลาดที่มาเก็บภาพที่นี่








บริเวณริมปากแม่น้ำ จะมีรีสอร์ทหลายแห่งให้บริการที่พักและอาหาร ที่จะขอแนะนำคือ เวทแลนด์ รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทริมน้ำ แต่ละห้องจะมีระเบียงนั่งชมยอได้ตามอัธยาศัย ที่สำคัญอาหารอร่อยมาก อาหารเช้าที่ราคาจะรวมอยู่ในค่าที่พักแล้ว นอกจากจะมีข้าวต้ม กาแฟแล้ว ยังมีอาหารพื้นเมือง แกงเหลือง น้ำพริกกะปิ ปลาทอด ที่อร่อยแบบรสชาติคนพัทลุงแท้ๆ 











นอกจากปากแม่น้ำปากประแล้ว ทีเด็ดของพัทลุงก็คือ ทะเลน้อย

ทะเลน้อย เป็นทะเลสาบน้ำจืด ตั้งอยู่ใน ตำบลพนางตุง และ ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง มีคลองนางเรียมยาว 2 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างทะเลน้อยกับทะเลสาบสงขลา ทะเลน้อยได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย แต่ประชาชนมักเรียก กันว่า อุทยานนกน้ำทะเลน้อยซึ่งนับเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพรรณพืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ความหลากหลายทางชีวภาพของทะเลน้อย ทำให้พื้นที่ “พรุควนขี้เสี้ยน” ของทะเลน้อยได้รับการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ชุ่มน้ำโลก หรือ “แรมซาร์ ไซด์” (Ramsar Site) แห่งแรกในเมืองไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2541 ทะเลน้อยเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมาก ทั้งระบบนิเวศ สัตว์ป่า สัตว์น้ำ พรรณพืช โดยเฉพาะนก ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

ที่มา : www.paiduaykan.com



ล่องเรือชมทะเลบัวชมวิวทัศนียภาพ

จุดเด่นของการท่องเที่ยวทะเลน้อย คือ ล่องเรือชม “ทะเลบัวแดง” หรือ “ทะเลบัวสาย” พันธุ์บัวที่มีขึ้นอยู่มากที่สุด โดยในช่วงเช้าเหล่า บัวสายจะพาออกดอกสีแดงสดบานสะพรั่งเต็มท้องน้ำในบริเวณที่มีบัวชนิดนี้ขึ้นอยู่ ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันความงามคู่ทะเลน้อยที่อยู่คู่กัน มาแต่ช้าแต่นาน แต่ดอกบัวจะบานเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น พอเข้าช่วงสายจะหุบแล้ว  ดอกบัวจะเริ่มบานตั้งแต่กลางเดือน ก.พ – เม.ย. นอกจากนี้ระหว่างนั่งเรือชมดอกบัว ยังสามารถชมพืชพันธุ์น่าสนใจ อื่นๆ อาทิ ผักตบชวา จอก แหน สาหร่ายต่างๆ กระจูด กง ย่านลิเภา กก และเสม็ดที่ยืนต้นตระหง่านอยู่ในพื้นที่ป่าบก เป็นต้น

ที่มา : www.paiduaykan.com


เรือที่นั่งชมบัวและทะเลน้อย เป็นเรือหางยาว ไม่มีหลังคา (ฉะนั้นควรเตรียมหมวกกันแดด และร่มเผื่อเจอฝน ติดไปด้วย ) ค่าเรือประมาณ 450 บาท ใช้เวลา 1 ชั่วโมง คนขับเรือจะแล่นเรือพาเราชมรอบทะเลน้อย ตรงไหนมีบัวสวย ก็จะหยุดเรือให้ถ่ายภาพกัน 














ระหว่างทาง เราจะเห็นชาวประมง ตกเบ็ด หรือทอดแห หาปลาเป็นระยะๆ นอกจากนี้บรรดานกน้ำยังมีมาก นกน้ำมีทั้งนกที่ประจำถิ่นและนกอพยพมาจากที่อื่น ตามฤดูกาล ด้วย แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทะเลน้อยเป็นอย่างดี












ไฮไลท์อีกอย่างของทะเลน้อย ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง คือ ควายน้ำ ซึ่งเป็นควายมีเจ้าของแต่เลี้ยงแบบปล่อยให้หากินเอง ควายเหล่านี้จะกินหญ้าที่ขึ้นอยู่ใต้น้ำ หรือพวกสาหร่ายต่างๆ ซึ่งน่าจะมีอย่างอุดมสมบูรณ์ จนควายพวกนี้มีความสุขในการแช่น้ำหากินไม่ยอมขึ้นบกกันเลยทีเดียว







สินค้าโอท้อปที่ขึ้นชื่อคืองาน สานกระจูด เป็นเสื่อ เป็นกระเป๋าสาน ฝีมือคนพื้นที่ สวยงามน่าซื้อ ราคาถูกมากๆ พวกเราแวะที่ หัตถกรรมกระจูดวรรณี &​ โฮมสเตย์​ หลังจากกลับออกมาจากทะเลน้อย มีเสื่อ มีกระเป๋าสานกระจูด ฝีมือชาวบ้านนั่งทำให้เห็น ราคากระเป๋าสานใบละ 100 เล่นเอาพวกเราเหมามาแจกญาติพี่น้องกันคนละหลายใบ ที่นี่มีบ้านพักระดับดี และหากสนใจสานกระจูด ก็มาร่วมเรียนรู้ได้ด้วย






อันซีนที่น้อยคนจะได้พบ และยากที่ได้พบ คือ เงาะป่า ซาไก 

"เงาะป่าซาไก" หรือ "ซาไก" ซาไกอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย และทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย บางกลุ่มได้เข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับคนในชนบทมีการพัฒนาเพียงเล็กน้อย บางกลุ่มยังเร่ร่อนอยู่ในป่า ใช้วิถีชีวิตเหมือนมนุษย์ในสมัยหิน ใช้ชีวิตหากินอยู่ในป่า โดยไม่ติดต่อโลกภายนอก กลุ่มที่อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง เงาะป่ากลุ่มนี้มีประมาณ 20 คน จะใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ในป่าเทือกเขาบรรทัด ระหว่าง 3 จังหวัด คือ พัทลุง ตรัง และสตูล  

ที่พักอาศัยและอาหารการกิน ซาไกไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่ง จะทำที่พักชั่วคราวเรียกว่า "ทับ" ซึ่งทำขึ้นง่ายๆ โดยวางโครงร่างเป็นไม้เล็กๆ เอียงทำมุม 45 องศากับพื้น แล้วนำใบกล้วยป่า ใบหวายมาวางทาบเป็นหลังคาจดกับพื้น การเลือกที่สร้างทับจะเลือกที่ป่าทึบ อยู่ใกล้ลำธารมีอาหารจากหัวเผือก หัวมัน และมีสัตว์เล็กๆ ให้ล่า เช่น ชะมด ลิง ค่าง หรือกระรอก เป็นต้น เมื่ออาหารหายากขึ้น ซาไกก็จะอพยพย้ายไปถิ่นอื่น ซึ่งหัวหน้าจะเป็นผู้นำทางไปตามที่ซึ่งเคยอยู่อาศัย ครบรอบปีก็ย้อนวนลงมาที่เดิมอีก ฉะนั้นต้องมีโชคจริงๆจึงจะได้พบ พวกเราโชคดีมากที่ได้พบและได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพได้ 

เท่าที่สังเกต พวกซาไกนี้ คงอายุไม่ค่อยยืน เนื่องจากการกินอยู่ที่ลำบากในป่า และการแต่งงานกันเองในกลุ่ม  นอกจากนี้ส่วนใหญ่พวกนี้ไม่ค่อยอาบน้ำกัน จึงมีปัญหาโรคผิวหนังกันเกือบทุกคน











พัทลุงยังมีของดีอีกมากมาย ทียังไม่ได้เยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมการเล่นหนังตะลุง หรือ โบราณสถานอารามหลวงวัดคูหาสวรรค์ และอื่นๆอีกมากมาย ถ้ามีโอกาสคงได้กลับไปเก็บตกแน่ๆ 

ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาแวะเยี่ยมชมค่ะ


No comments:

Post a Comment

ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......