ติดตามตอนแรก Vienna Austriaได้ที่นี่
https://somersetmghm.blogspot.com/2020/02/europe-2019-vienna.html
Budapest Hungary ตอน2
https://somersetmghm.blogspot.com/2020/02/europe-20192-budapest.html
Krakow Poland ตอน3
http://somersetmghm.blogspot.com/2020/02/europe-20193-krakow-poland.html
https://somersetmghm.blogspot.com/2020/02/europe-20194-gdansk-poland.html
เมืองสุดท้ายของการมาเยือนโปแลนด์ ถ้าไม่แวะก็คงเหมือนไม่ถึงโปแลนด์
กรุงวอร์ซอไม่ได้อยู่ติดทะเล แต่ กลับมีสัญลักษณ์ประจำเมืองเป็นนางเงือก มือซ้ายถือโล่ มือขวาถือดาบ มีรูปปั้นนางเงือกตั้งอยู่กลางจัตุรัสในตลาดโบราณย่านเมืองเก่า สร้างขึ้นช่วงกลางศตวรรษที่ 19 (กลาง ค.ศ. 1800)
ตามตำนานมีหลายเรื่องเล่า เรื่องยอดนิยมมีอยู่ว่า นางเงือกชื่อ “ซาวา” ถูกจับตัวไว้ มี ชายหนุ่มนาม “วอร์ส” มาช่วยไว้ และเพื่อตอบ แทนคุณงามความดีของวอร์ส นางเงือกซาวาจึงให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยปกป้องเมืองนี้ดังจะเห็นได้จากรูปปั้นนางเงือกที่ถือดาบและโล่ นับแต่นั้นมาจึงเรียกเมืองนี้ว่า “วอร์ซาวา” หรือวอร์ซอนั่นเอง
วอร์ซอเป็นเมืองหลวงของโปแลนด์มาตั้งแต่ ปี 1596 เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองและเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย จนกระทั่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กองทัพนาซีได้บุกยึดครองโปแลนด์ เมื่อชาวโปแลนด์ลุกขึ้นต่อต้านนาซีเยอรมัน อดอฟ ฮิตเลอร์จึงสั่งให้ทำลายเมืองนี้ลงไม่ให้เหลือซาก วอร์ซอจึงได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงคราม เมืองทั้งเมืองถูกทำลายลง แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ชาวโปแลนด์ได้ร่วมมือร่วมใจกันบูรณะเมืองนี้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งจากซากปรักหักพัง และคงรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามเอาไว้เป็นอย่างดี
ก่อนมาโปแลนด์ ความรู้เกี่ยวกับประเทศนี้น้อยนิดแทบไม่มีข้อมูลใดๆ นอกจากภาพที่เห็นจากหนังเรื่อง The Pianist ความวิปโยคจากอคติทางเชื้อชาติ ภาพยนต์ระดับรางวัลออสการ์ที่ถ่ายทอดได้กินใจเหลือเกิน เป็นเรืองของนักดนตรีชื่อ วลาดิสลาฟ สปิลมัน หรือ วลาเดค และครอบครัว และชาวยิวในโปแลนด์ ต้องได้รับความทุกข์ทรมานจากสงคราม และ การทารุณจากความอคติทางเชื้อชาติ ต้องได้รับความลำบากยากแค้น อดอยากและหลบซ่อนท่ามกลางซากปรักหักพังของเมืองทั้งเมืองที่ถูกทำลาย
แต่ถ้ามองความเป็นจริง ใกล้ๆกัน สงครามเวียดนามก็สร้างความทุกข์ทรมานให้กับคนเวียดนาม คนลาวและคนกัมพูชา จากการกระทำของอเมริกาไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเลย
ที่วอร์ซอ เราจองอพาทเม้นต์ใกล้ๆกับสถานีรถไฟวอร์ซอ ลากกระเป๋าเดินไม่ไกล แต่จากสถานีเราหาทางออกไม่พบ เดินวนเวียนอยู่ภายในสถานีอยู่นานกว่าจะหาทางออกได้เจอ โทรเรียกให้ทางอพาทเม้นต์ส่งรถมารับ ทางนั้นก็บอกว่าอยู่ใกล้นิดเดียว พวกยูเดินมาก็ได้ แต่เราก็หาทางไปจนถึงแหละ
อพาทเม้นต์ที่พวกเราจองชื่อ Warsawrent Apartments Centralna
เราพักกัน 1 คืน จึงเลือกอพาทเม้นต์ที่พักสบาย ไม่จำเป็นต้องมีครัว เพราะเราจะหาทานข้างนอก ซึ่งเราฝากกระเพาะที่ร้านอาหารในสถานรถไฟ ศูนย์อาหารมีอาหารให้เลือกเยอะแยะ รวมทั้งของฝากต่างๆด้วย แต่ราคาเมื่อคิดเป็นเงินบาทแล้ว ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่นัก ค่อนข้างแพงราคาใกล้เคียงกับซื้อในบ้านเรา ซึ่งสรุปได้ว่า โปแลนด์ทุกเมือง ของกิน ของใช้ ของฝาก ราคาโหดแพงเกินไป เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ เช่น เวียนนา และ บูดาเปสต์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่กว่า ของกลับไม่โหดเท่าโปแลนด์
ช่วงเย็น จึงใช้เวลาหมดไปกับการเดินดูของและ หาของกินในสถานี
วันรุ่งขึ้น วันนี้จะไปเดินย่านเมืองเก่า Old Town Square เรานั่งรถรางไปลงที่ Sigismund's Column และเดินชมเมืองเก่า มุ่งหน้าไป Warsaw Barbican และหาซื้อของที่ระลึกกัน
แวะตลาดดอกไม้ระหว่างทางนิดนึง
คืนนี้หลังบินจากวอร์ซอ มาเวียนนา เราให้รถของอพาทเม้นต์ ส่งรถมารับพวกเรา เรามีเวลาอยู่ที่ เวียนนาอีก 2 วัน ค่อยแยกกับกลุ่มที่จะกลับเมืองไทย 4 คน และ เหลือ 5 คน จะบินไปเที่ยวต่อที่ กรุงโรม อิตาลี
ติดตามต่อได้ที่
https://somersetmghm.blogspot.com/2020/02/europe-20196-vienna-austria.html
No comments:
Post a Comment
ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......