ใบไม้เปลี่ยนสีรอบๆโตเกียว 4

Hitachi - Yokohama
24 Oct 2018

ติดตามตอนแรก Nikko ได้ที่นี่
https://somersetmghm.blogspot.com/2018/11/1.html


ติดตามตอน2  Ouchi-juku , Aizuwakamatsu ได้ที่นี่
http://somersetmghm.blogspot.com/2018/11/2.html


ติดตามตอน3 Urabandai,Twaki,Mito
https://somersetmghm.blogspot.com/2018/11/3.html

จากเมืองมิโตะ ไปสวนฮิตาชิ ระยะทาง 16 กม. ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที เราไปถึงก่อนเวลาเปิดนิดเดียว จึงหาที่จอดรถได้ง่ายบริเวณทางเข้านั่นเอง หลังจากผ่านประตูมาแล้ว ก็มีให้เลือกว่าจะเดินชมสวนและไปสิ้นสุดที่สวนโคเคีย Hill of Miharashi     ระยะทาง 2.5 กม.  หรือซื้อตั๋วรถรางแบบขึ้นได้ไม่จำกัด 500 เยน  สำหรับพวกเราแก่แล้วเลือกขึ้นรถราง

จากแผนที่ในสวน เราจะต้องไปลงที่ป้ายที่ 8  Hill of Miharashi ต้นโคเคีย กำลังแดงสดใสทีเดียว กว่าสามหมื่นต้น

“โคเชีย” (KOCHIA) พืชตระกูลหญ้าทรงกลม  ที่โดยปกติจะมีสีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง พุ่มโคเคีย หญ้าที่มีวงจรชีวิต 1 ปี จัดอยู่ในประเภทหญ้าไม้กวาดที่เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มต่ำ มีถิ่นกำเนิดในยุโรปใต้ สมัยก่อนนิยมนำก้านหรือใบมาตากแห้งเพื่อทำไม้กวาด

ธรรมชาติของต้นโคเคีย จะเริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวสด ไปเป็น แดงส้ม แดงเลือดหมู และ น้ำตาลตามลำดับ
ช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. จะเห็นทั้งทุ่งเป็นสีเขียว
ช่วงต้นเดือนต.ค. จะเริ่มผลัดเปลี่ยนสีแดงให้เห็น
ช่วงกลางเดือนต.ค. จะเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด ออกส้มๆ
ช่วงปลายเดือนต.ค. สีจะเริ่มเข้มขึ้นจนออกเป็นสีเลือดหมู

ยิ่งสายคนยิ่งเยอะ จนยากที่จะหลบคนพ้น

 

และเหล่าน้องหมาน่ารัก

ดอกไม้อื่นๆในสวน

ออกมาจากสวนก็ต้องหาอะไรทาน แน่นอนตลาดปลา  Nakaminato fish market  (https://goo.gl/maps/vLKCr2diZSP2)   ใกล้สวนฮิตาชินั่นเอง  หลังจากเสียบจอดรถริมทางตรงที่มีช่องว่างแล้ว เราก็ลงมาเดินดู ตลาดปลาที่นี่ เป็นปลาสดๆที่ลงมาจากเรื่อประมง  คนซื้อส่วนใหญ่เป็นเจ้าของร้านอาหารที่มาซื้อเพื่อเอาไปปรุงอาหารขายอีกที แต่ก็พอมีร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ร้านน้อยทำให้ต้องเข้าคิวรอกันยาว เราเลยเลือกร้านที่คิวน้อยที่สุด คือร้านซูชิสายพาน

แวะริ่มทะเลสักนิดก่อนวิ่งยาวไป Yokohama

เรามัวแต่โอ้เอ้กันที่ฮิตาชิ ทำให้ถึงโยโกฮามา เย็นมาก อดเข้าพิพิธภัณฑ์รราเมน วันนี้เราพักที่ Hotel Mystays Yokohama  เราจองที่จอดรถมาด้วย เพราะไม่แน่ใจว่าจะหาที่จอดรถได้หรือไม่ ทางโรงแรมคิดค่าจอดคืนละ 1,600 เยน แต่เราพบว่ามีที่จอดรถเพียบรอบๆโรงแรม ราคาคืนละ 1,200 เยน เท่านั้น ใครว่าคนญี่ปุ่นแฟร์นะ???

แค่นี้จิ๊บจ๊อย เรายังมีเสียค่าโง่อีกมากกว่านี้หลายเท่านักที่โตเกียวในอีก 2 วันข้างหน้า เล่นเอาจุกทีเดียว เนื่องจากเราไม่แน่ใจว่าริมอ่าวจะหาที่จอดรถได้หรือไม่ ฉะนั้นจึงเลือกจอดรถทิ้งไว้ที่โรงแรมและนั่งรถไฟใต้ดินและเดินชมแสงสีเอาดีกว่า  ขาไปเราเรียกแท๊กซึ่ไปส่งที่  Nippon Maru Memorial Park และเริ่มต้นเดินชมไฟ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ตั้งแต่จุดลงรถ ไปยัง Yokohama Cosmoworld , Yokohama World Porters , Red Brick Warehouse , และเดินกลับมาที่ Kishamichi Promenade  ก่อนนั่งรถไฟใต้ดินกลับมาที่สถานี Bandobashi Sta.

พรุ่งนี้เราจะไปไหว้พระใหญ่ไดบุทสึที่ คามาคุระ และ ไปคาวากุชิโกะกลับไปเยี่ยม ฟูจิ กันอีกครั้ง ติดตามชมได้ที่

https://somersetmghm.blogspot.com/2018/11/5.html