30 Nov - 10 Dec 2023
ติดตามตอนก่อนหน้านี้
Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่1 ( Seoul เดินทางวันแรก ) (somersetmghm.blogspot.com)
Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่2 ( ปูซาน ) (somersetmghm.blogspot.com)
Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่3 ( ปูซาน ) (somersetmghm.blogspot.com)
Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่4 ( Seoul #1) (somersetmghm.blogspot.com)
Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่5 ( Nami Island) (somersetmghm.blogspot.com)
Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่6 ( Seoul #2) (somersetmghm.blogspot.com)
วันที่ : 8 ธันวาคม 2566
ที่แรกที่เราจะไปวันนี้ คือ พระราชวัง Gyeongbokgung Palace ที่เราพลาดไปวันก่อน เพราะพระราชวังปิด หลังจากกินกาแฟ และขนมปังที่ร้านในโรงแรม เบเกอรี่และสลัดอร่อยมากทุกอย่าง
รองท้องกันไปแล้ว ค่อยไปหามื้อใหญ่ข้างหน้า เสร็จแล้วก็ออกเดินไปพระราชวัง อากาศเช้าๆสบายๆ ไม่หนาวสั่นแบบวันแรก ร่างกายคงปรับตัวเข้ากับอากาศหนาวได้แล้ว แต่กว่าจะปรับได้ก็ครั่นเนื้อครั่นตัว เจ็บคอ จะเป็นไข้ ต้องเข้าร้านขายยา ซึ่งที่นี่มีร้านขายยาเยอะมาก และเห็นโพสในเฟสว่ายาเค้าดีกินแล้วหายได้เร็ว ซึ่งก็จริง เราซื้อยาทานแก้เจ็บคอพอกินครบโดส ก็หายเลย ยาแก้ไขเค้าไม่มี มีแต่พาราเซตามอน
เดินชิวชิว ผ่าน Dongah Media center เค้ามีโชว์การถ่ายทอดสดรายการข่าวให้คนเดินผ่านไปมาหยุดดูที่ประตูกระจก
แวะถ่ายภาพกับอนุสาวรีย์กษัตริย์ Statue of King Sejong the Great ทรงเป็นหนึ่งในสอง ของกษัตริย์แห่งประเทศเกาหลี ที่ได้รับสมัญญาว่าเป็นมหาราช ตลอดรัชสมัยในการปกครองของพระองค์ ทรงมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ให้ประสบความสำเร็จ อย่างยอดเยี่ยม ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของประเทศ จึงทำให้พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศเกาหลี
พระองค์ทรงรวบรวมพื้นฐาน สำหรับการปกครองราชวงศ์โชซอน โดยผสมผสานเข้ากับปรัชญาการเมืองของขงจื้อ รวมถึงทฤษฎีมินบอน (The theory of Minbon, 민본사상) ที่มุ่งเน้นไปยังประชาชน โดยเชื่อว่าคนเป็นรากฐานที่มั่นคง ของประเทศที่มีความสงบสุข นอกจากนี้ยังทรงเป็นผู้นำ ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ ในด้านการเกษตร, วรรณกรรม, วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลงานซึ่งเป็นที่รู้จัก และโดดเด่นที่สุดก็คือ การประดิษฐ์อักษรฮันกึล (Hangeul, Hangul, 한글)
เดินถึงพระราชวัง หลังซื้อบัตรเข้าชม ก็เข้าไปด้านใน คนเยอะทีเดียว นักท่องเที่ยวสนุกกับการแต่งชุดฮันบก และถ่ายรูปกัน เราก็แอบสอยมาเข้าฉายหลายคนเช่นกัน
เราเดินผ่านประตู Gwanghwamun ประตูแห่งนี้เป็นประตูหลักทางทิศใต้ ของพระราชวังเคียงบก (Gyeongbokgung Palace) แต่เดิมประตูแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า โอมุน (Omun Gate, 오문) โดยในรัชสมัยของ กษัตริย์เซจงมหาราช (Sejong the Great) ประตูถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ควางฮวามุน (Gwanghwamun, 광화문) ซึ่งมีความหมายว่า ‘อำนาจอันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ส่องสว่างทั่วทั้งประเทศ’
คึนจองจอน (Geunjeongjeon, 근정전) เป็นอาคารห้องโถงหลักของพระราชวัง ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ปัจจุบันเป็นอาคารไม้ ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น สมบัติแห่งชาติหมายเลข 223 ของประเทศเกาหลีใต้ อาคารแห่งนี้เคยทำหน้าที่ เป็นห้องโถงหลักของพระราชวัง สำหรับการดำเนินการของรัฐ, การประชุมอย่างเป็นทางการ และการต้อนรับทูตต่างประเทศ
คำว่า “เคียงบกกุง” หมายถึง พระราชวังแห่งพรที่มีแสงสว่าง ภายในบริเวณของพระราชวังแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจดังนี้คือ “พระที่นั่งคึนจองวอง (Geunjeongjeon)”และ “ศาลาเคียงฮวยรู (Hyangwonjeong)” ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณสระน้ำ มีทัศนียภาพที่สวยงามมาก และรอบๆ บริเวณตรงประตูจอนชุลมุน จะสามารถเดินผ่านไปถึงถนนซัมจองดองกิล ยังมีร้านขายชุดฮันบกอันเก่าแก่ให้ได้เลือกชม รวมไปถึงหอศิลป์ต่างๆและทำเนียบชองวาแด เมื่อเดินไปรอบๆจะพบส่วนหย่อมที่ให้ความรู้สึกร่มรื่น นอกจากนี้ภายในพระราชวังยังมีพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (National Palace Museum of Korea) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประตูฮึงรแยมุน (Heungnyemun Gate) กับพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ (National Folk Museum) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกในพื้นที่พระราชวังเคียงบกกุง (Hyangwonjeong) อีกด้วย
เดินไปเดินมา อ้าวเดินออกประตูทางทิศเหนือ Sinmumun ซะแล้ว เราพลาดบางจุดไปแล้วสิ แต่ขี้เกียจเดินกลับเข้าไปแล้ว จนท.เค้าก็เตือนแล้ว ออกแล้วออกเลยนะกลับเข้ามาอีกไม่ได้
แต่เรากำลังตื่นเต้น เพราะฝั่งตรงข้ามเมื่อออกประตูมาแล้ว คือ Blue house ทำเนียบประธานาธิบดี ที่คราวก่อนเมื่อสิบกว่าปีก่อน เราเคยมา ได้แต่ยืนชมอยู่ฝั่งด้านนี้เค้าไม่ให้ข้ามไปชม แต่คราวนี้เปิดให้คนเข้าชมได้ไม่เสียเงินด้วย นำพาสปอร์ตไปยื่นให้เค้าลงทะเบียนก็เดินเข้าข้างในได้เลย
ด้านในเป็นห้องต่างๆ เช่นห้องรับรองแขกบ้านแขกเมือง ห้องประชุม
บันใดทางขึ้นลง เค้าห้ามหยุดถ่ายภาพ ก็ต้องใช้เทคนิคกันหน่อย ให้น้องชายรออยู่ด้านบน พวกเราทำเป็นเดินลงทิ้งช่วงกับคนด้านหน้าหน่อยนึง ก็ได้ภาพแล้วละ
แต่ตรงด้านล่างนี้ จนท. เค้าเชื้อเชิญให้ถ่ายภาพเลย และ จนท.เป็นคนถ่ายให้ด้วย
คำขวัญหรือคำคมนี้ ทำเป็นแผ่นใหญ่เลย คงมีความหมายอะไรดีๆหรือปลุกใจ เราเลยหยิบโทรศัพท์มาเปิดแอฟแปลภาษา ได้ความว่า " ดูแลรักษาอย่างดีด้วยตัวเอง แผ่ขยายออกด้วยสติปัญญาและความพยายามของฉัน จิตวิญญาณอันแข็งแกร่งของผู้คนทุกสมัย หลับไหลและอยู่บนสวรรค์ ............
ออกจากทำเนียบประธานาธิดี เราเดินเลี้ยวขวา เลาะริมกำแพงพระราชวังด้านนอก กลับมาทางประตูทางตะวันตก ตั้งใจหาร้านอาหารที่ดูจากกูเกิ้ลแม๊มแล้ว ด้านนี้มีร้านอาหารเยอะ แต่เราเดินมาได้ครึ่งทาง เจอร้านนี้ดูเข้าที คนไม่เยอะด้วย น้องชายรีบพุ่งเข้าไปทันที ปรากฏว่าเป็นร้านปิ้งย่าง มีทั้งหมูทั้งเนื้อ ต่อจากนี้ก็เป็นบันเทิงการกินแล้ว เพราะเรายังไม่ได้กินหมูย่างเนื้อย่างดีๆเลย สั่งกันแหลกซัดกันเกลี้ยง โคจูจัง ซอสที่เอาหมูเนื้อจิ้มทานอร่อยมากไม่เค็มเหมือนร้านอื่นๆ อาจุมม่าคนขายก็ใจดี เราเวียนกันขอกิมจิเพิ่มตลอด แกก็ไม่ว่าเอามาให้เพิ่มทันที
อิ่มกันแล้ว ไม่ใช่อิ่มธรรมดา อิ่มมากจนข้ามมื้อเย็นไปเลยล่ะ
ที่ต่อไปคราวนี้ถึงเวลาช้อปปิ้งจริงจังซะที เราจะไปลุยตลาดนัด Dongmyo Flea Market ที่เค้าว่าใหญ่ที่สุดในโซล มีของขายมากมายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ 555 ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็มากล่ะมีของหลากหลายคล้ายๆคลองถมบ้านเรา ราคาถูกมากแล้วแต่คนตาถึง เครื่องใช้ไฟฟ้าถูกๆเยอะ แต่พวกเราคงได้แต่ดูไม่มีปัญญาแบก แค่ชำเลืองดูเท่านั้น ที่เราดูอย่างจริงจังคือพวกเสื้อผ้า แจ๊คเก็ตกันหนาวมือสอง ราคาถูกเหมือนได้ปล่าว ตัวละ 10,000-20,000 วอน ยิ่งตอนเย็นๆใกล้ๆตลาดปิด มีการขนเสื้อผ้ามาโยนกองให้คุ้ยหากันเอง ยิ่งราคาถูก บางตัวได้มาราคาแค่ 2,000 วอน หรือ ห้าสิบกว่าบาทเองสำหรับแจ๊คเก็ตขนเป็ดเทียมที่สภาพยังดีมาก เล่นเอาน้องสะใภ้ซื้อจนพวกเราต้องช่วยกันหิ้วคนละถุงเลยล่ะ
พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้ว ว่าจะเป็นวันเบาๆ เน้นช้อปปิ้งเป็นหลัก อาจมีไปไหนสักที่นึง รอติดตามได้นะคะ
Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่8 ( Seoul #4) (somersetmghm.blogspot.com)
No comments:
Post a Comment
ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......