หุบเขาอวตาร (Zhangjiajie National Forest Park Wulingyuan )
ผ่านไปแล้ว 4 ตอน อ่านย้อนหลังได้ที่
ตอนที่ 1 Changsha เริ่มต้นทริป
ตอนที่ 2 เมืองโบราณเฟ่งหวง ( Fenghuang)
ตอนที่ 3 เมืองโบราณฟู่หรง (Furong Ancient Town)
ตอนที่ 4 สะพานกระจกจางเจี่ยเจี้ย ( Zhangjiajie Grand Canyon )
ตอนที่ 5 หุบเขาอวตารจางเจี่ยเจี้ย ( Zhangjiajie National Forest Park )
เราผ่านมา 4 ตอนแล้ว ตอนนี้จะเป็นไฮไลท์ของทริปซะที่ นั่นคือ หุบเขาอวตาร หรือ จางเจี่ยเจี้ย นั่นเอง
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ที่เป็นส่วนหนึ่งของจุดชมวิวอู่หลิงหยวน (Wulingyuan Scenic Area) อุทยานแห่งชาติที่ดีที่สุด ระดับ National AAAAA Tourist Attraction ถือเป็นระดับสูงสุดของจีน ด้วยสภาพภูมิประเทศที่สวยแปลกตานี้ ทำให้ “จุดชมวิวอู่หลิงหยวน (Wulingyuan Scenic Area)” ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก Global geopark ด้านอุทยานธรณีโลก
“จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)” ก็คือหุบเขาหินปูนปลายแหลมรูปทรงแปลกตา ที่อุดมไปด้วยต้นไม้และสายหมอก ดูแล้วชวนฝัน คล้ายในภาพวาดโบราณของจีน จนเป็นแรงบันดาลใจให้ “เจมส์ แคเมรอน (James Cameron)” ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง นำทัศนียภาพของ “จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)” ไปเป็นต้นแบบหุบเขาบนดาว “แพนดอร่า (Pandora)” ในหนังเรื่อง AVATAR ภาคแรกใน 2009
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เป็นอุทยานแห่งแรก ก่อตั้งเมื่อ 41 ปีก่อน มีพื้นที่กว่า 369 ตารางกิโลเมตร แบ่งโซนเที่ยวออกเป็น 3 โซน คือวนอุทยานแห่งชาติ หุบเขาซูยี่ และภูเขาเทียนจื่อ
พวกเราซื้อตั๋วเข้าชมทางออนไลน์ โดยเลือกเข้าทางประตูทางเข้าด้านตะวันออก หรือ เข้าทางเมือง หวู่หลิงหยวน (Wulingyuan) โดยมาพักตั้งแต่เมือวาน และไปเที่ยวชมแกรนด์แคนยอน สะพานแก้ว มาแล้ว วันนี้จึงเป็นทีที่จะเข้ามาเที่ยวยังหุบเขาอวตารแห่งนี้
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย ก็เดินมายังทางเข้า เพราะที่พักของเราอยู่แค่หน้าปากประตูแค่นี้เอง มาถึงแล้ว ก็เอารหัสบาร์โค๊ดไปแสดงตัว เพื่อรับตั๋วจริงที่ช่องขายตั๋ว หลังจากเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก็พร้อมเดินทางได้
จากประตูทางเข้า จะมีรถบัสรับไปส่งที่จุดแรก เพื่อขึ้นกระเช้าลอยฟ้า เพื่อไปยังภูเขาเทียนจื่อ (Tianzi Shan) ส่วนนี้ต้องซื้อตั๋วเพิ่มเติมในราคาอยู่ที่ 72 หยวน ใช้เวลาราว ๆ 30 นาที หรือถ้าไม่อยากเสียเงิน ก็สามารถเดินไปได้
จุดเช็คอินแรกคือ Sandstone Peak Forest – The Warrior Training Horses จุดชมวิวที่เห็นภูเขาหินเป็นแท่งๆ สูงเฉียดฟ้าทั่วทั้งหุบเขาแบบพาโนราม่า 180 องศา สวยอลังการมาก โดยระดับที่ชมวิวนี้สูงจากระดับน้ำทะเล 1,262 เมตร ด้วยความสูงนี้ทำให้เราเห็นภาพป่าหินควอตซ์อันสูงชัน ตั้งตระหง่านมากกว่า 3,000 ยอด
ใกล้ๆกัน จะมีเจดีย์สูง มีความสำคัญยังไงก็ไม่ทราบ เพราะไม่มีข้อมูลอะไรบอกไว้
เดินออกมา แยกทางซ้ายก่อนมาขึ้นรถบัส จะพบ สวนสาธารณะเหอหลง (He long Park : 贺龙公园) จุดนั่งพักและชมวิวที่ร่มรื่น ตรงนี้จะมีอนุสาวรีย์รูปปั้นนายพลเหอหลงสูงตระหง่านมีความสูง 6.5 เมตร และน้ำหนัก 9.3 ตัน เป็นหนึ่งในรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดและหนักที่สุดในประเทศจีน สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 90 ปีวันเกิดของจอมพลเหอหลง ซึ่งเป็น 1 ใน 10 จอมทัพแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เก่งกาจในสมัยท่านประธานเหมาเจอตุง
วิวตรงจุดนี้ก็ว้าวไม่น้อย แต่ควรระวังคุณจ๋อไว้ด้วย เห็นเดินป้วนเปี้ยนอยู่หลายตัว
จากจุดนี้เดินลงบันใดขึ้นบันใดอีกหนึ่งหอบ ก็จะพบ สะพานหหินใต้หล้าอันดับ 1 The First Bridge under Heaven : 天下第一桥 ลักษณะเป็นสะพานหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากการกัดเซาะเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี เชื่อมระหว่างภูเขาสองลูก อยู่บนความสูงกว่า 350 เมตร ทางเดินกว้าง 4 เมตร มีความหนา 5 เมตร
เดินมาอีกไม่ใกล้ ไม่ไกลนักจะเป็นจุดไฮไลท์ยอดนิยม คือ “เสาหินแห่งฟ้าแดนใต้ (Stone Pillar Supporting Heaven)” ตรงนี้จะเป็นระเบียงกว้างๆ ยื่นออกไปริมหน้าผา ชมวิวพาโนรามาที่ยิ่งใหญ่ของ ภูเขาหินทรายที่โดนกัดเซาะจนมีรูปร่างคล้ายลิ่มยักษ์สูงมากกว่า พันเมตร จนได้เป็นต้นแบบของหุบเขาแห่งดาวแพนดอร่า ในเรื่อง Avatar นั่นเอง
เดินตามทางเดินไปเรื่อยๆก็จะออกมายังลานกว้างมีร้านค้า และ ห้องน้ำ หลังจากเข้าห้องน้ำ ก็มาหาอะไรรองท้องสักนิด ได้ใส้กรอกทอดมาไม้นึง ก็อร่อยดีนะ จากนั้นก็ไปขึ้นรถบัส พาไปส่งที่ลิฟต์ Bailong Elevator ว่ากันว่าเป็นลิฟต์ที่เร็วและสูงที่สุดในโลก ลิฟต์จะพาเราจาก ยอดเขาที่ความสูง 326 เมตร ลงมาด้านล่างในเวลาไม่ถึง 2 นาที ตรงนี้ต้องจ่ายเงินค่าลิฟต์ด้วยนะ
ออกมาจากลิฟต์ เป็นทางลงบันใดสูงมาก เดินลงกันไปแบบระทดระทวย ยังคิดเลยว่าทำไมไม่สร้างลิฟต์ให้ลงมาถึงที่ราบลานจอดรถซะเลย วิวที่ลานจอดรถก็อลังการสวยไม่แพ้จุดอื่นๆเลย
ถึงตรงนี้ แม้จะรู้ว่ายังมีจุดอื่นๆที่น่าสนใจอีก และ ตั๋วก็ยังสามารถใช้ได้อีกหลายวัน แต่ทุกคนก็โบกมือลา ไม่ไหวแล้ว ่จากจุดนี้จึงเลือกขึ้นบัส กลับมายังทางเข้าด้านทิศตะวันออก หวู่หลิงหยวน พอแค่นี้ก่อน และด้วยสภาพร่างกาย ก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสจะกลับมาที่นี่อีกแล้วล่ะ บ๊ายบายนะ หุบเขาอวตาร
Somerset's Memories: Zhangjiajie-Furong-Fenghuang #6 (somersetmghm.blogspot.com)
No comments:
Post a Comment
ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......