Georgia : Kutaisi

 12-19 เมษายน 2568

ทริปนี้ ตั้งใจจะไปเที่ยวจอร์เจีย หลังจากฝุ่นตลบจากนักท่องเที่ยวไทยที่แห่กันไปเที่ยวจอร์เจีย เริ่มซาๆลงไป เลยเป็นโอกาสให้เราได้ไปซะที แต่ไหนๆค่าตั๋วเครื่องบินแพงนัก ก็เลยควบ ตุรกี ไปอีกประเทศซะเลย เอาให้คุ้มค่าเครื่องบิน เราใช้เวลาให้กับ จอร์เจีย 7 วัน และ ที่ตุรกี อีก 7 วัน รวม 15 วัน 

ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ โดยสายการบินการ์ต้า ตอนตี 2 แวะเปลี่ยนเครื่องที่ โดฮา ประเทศการ์ต้า ตอน 6 โมงเช้า และ เดินทางถึง สนามบิน Tbilisi International Airport จอร์เจีย ประมาณ บ่ายกว่าๆ  ติด ตม. ที่ตรวจหนังสือเดินทางช้ามากๆ เข้าคิวยืนกันยาวนาน 1.30 ชม. 

ผ่าน ตม.  ออกมาด้านนอกแล้ว พบกับ Mr.Ramaz คนขับรถที่เราติดต่อเช่ารถไว้  ตลอดเวลา 7 วันในการเดินทางในจอร์เจีย รามาซ หรือที่ให้เราเรียกว่า Mr.Bean ซึ่งจากหน้าตา พวกเราก็เห็นพ้องด้วยว่า เหมือนจริง รามาซดูแลพวกเราเป็นอย่างดี พาแวะตามจุดต่างๆ หาร้านอาหาร ที่เค้าว่าอร่อยพาพวกเราไปชิมตลอดเส้นทาง และสร้างบรรยากาศในรถ จะมีการพูดคุยแซวกันตลอด ขำๆเห็นเค้าชอบบ่นว่า ปูติน รัสเซีย พวกเราเลยแกล้งบอกเค้าว่า พวกเราชอบปูติน เลยมีการแซวกันตลอดทางที่พาดพิงถึง รัสเซีย เราจะบอกกันว่า พวกเราชอบปูติน ส่วนรามาซก็จะบอกว่า เค้าเกลียดปูติน เพราะปูตินไม่เคยมาช่วยเหลือประเทศเค้าเลย ทั้งๆที่มีพรมแดนติดกัน 

 

จากสนามบิน พวกเราออกเดินทาง มุ่งหน้าไปเมือง Kutaisi ระยะทาง 236 กม. ใช้เวลาเดินทาง 3  ชั่วโมง เราเสียเวลากับรถติดใน เมืองทบิลิสซิ  เพราะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ออกมานอกเมืองธรรมชาติสดสวย เราจะเห็นเทือกเขาคอเคซัส ที่อยู่ทางเหนือของประเทศเป็นช่วงๆอย่างชัดเจน

Kutaisi เป็นเมืองเล็ก ๆ ทางผ่านก่อนจะไปเมือง Mestia แต่ด้วยระยะทางที่ไกลทำให้ต้องเดินทางยาวถึง 8 ชั่วโมง เส้นทางก็จะต้องผ่านเขาคดเคี้ยวก็อาจจะทำให้เหนื่อยเกินไป ดังนั้นการแวะพักที่ Kutaisi ซักคืนหนึ่งก็จะทำให้ได้พักผ่อนก่อนที่จะเดินทางไกลต่อ

รามาซ แวะข้างทางเพื่อซื้อขนมปัง ที่ขึ้นชื่อในท้องถิ่น ที่เกือบทุกคนที่ขับรถผ่านจะต้องแวะซื้อกันไป เป็นขนมปังแผ่นบางแผ่นใหญ่  รสออกหวานๆผสมชินาม่อนและอะไรบางอย่าง รสชาติแปลกใหม่ อร่อยไปอีกแบบ         

เรามาถึง เมือง Kutaisi เย็นมากเกือบทุ่มได้ แต่สว่างราวกับ สี่โมงเย็น  ที่พักของเราชื่อ Hotel Eurica อยู่บนเนิน เห็นวิวเมืองคูทายสิ ได้ทั้้งเมือง  

จากห้องพัก เราสามารถนั่งชมวิวที่ระเบียงได้อย่างเต็มอิ่ม

ที่พัก มีอาหารเช้าบริการอยู่ในแพคเกจด้วย อาหารเช้า ประกอบด้วย ขนมปัง ชีสในแบบต่างๆ แฮม ใส้กรอก เนย แยม ซึ่งต่อไป เราจะได้ทานอาหารเช้าเช่นนี้ทุกมื้อ ไม่ว่าจะพักที่ โรงแรม หรือ เกสเฮาต์ ก็ตาม

หลังอาหารเช้า ทางเจ้าของรีสอร์ท เชิญพวกเราไปชมห้องเก็บไวน์ ที่ทางเจ้าของผลิดเอง และเชิญชวนให้ชิมกัน หลายแบบหลายขนาด ตั้งแต่ดีกรีน้อย จนถึง ดีกรีแรงๆ รสชาติดีมาก จนพวกเราอุดหนุนซื้อกันคนละหลายขวด 

เก็บภาพเป็นที่ระลึก กับจุดชมวิวของโรงแรม

เช็คเอาท์ออกจากที่พักแล้ว รามาซ พาพวกเราแวะเที่ยวในเมือง ที่แรกที่พาไปคือ White Bridge สะพานประวัติศาสตร์และสัญลักษณ์แห่งความงดงามของ Kutaisi  เป็นสะพานสำหรับคนเดินที่โดดเด่นด้วยพื้นกระจกใส เหมาะสำหรับชมวิวแม่น้ำ ริโอนี (Rioni River) 

Colchis Fountain  เนื่องจาก Kutaisi เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโบราณของ Colchis  ดังนั้นในปี 2012 ได้มีการเอาเครื่องประดับโบราณของชาวโคลเชียน ที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์จริงๆประมาณ 30 ชิ้น มาจำลองขยายแบบแล้วดีไซน์เป็นน้ำพุ ที่สำคัญเมืองนี้มีการขุดทองคำเยอะ เครื่องประดับโบราณต่างๆของ Colchis ก็เลยจะเป็นเครื่องประดับทองคำซะส่วนมาก  

ออกจากเมือง มุ่งหน้าไป Mestia  ระหว่างทางแวะโบสถ์ข้างทาง วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เราเลยได้บรรยากาศคนที่นี่มาทำพิธีทางศาสนา ที่โบสถ์  และมีบรรยากาศตลาดนัดเล็กๆ โดยมีการแลกเปลี่ยนดอกไม้ ที่เค้าคงเก็บหรือเด็ดมาจากหน้าบ้าน เอามาบูชาที่โบสถ์ เมียงๆมองๆ ทันใดก็มีหนุ่มชาวจอร์เจีย นำดอกไม้มามอบให้ แหม...เสียดาย ลุงมอบให้ช้าไป หลายสิบปี ไม่งั้นได้มีปิ๊งแน่

Delpak Waterfall  น้ำตกริมทางเล็กๆ 

ร้านอาหารริมทาง ที่เราแวะทานอาหารกลางวันกัน  รามาซ การันตีว่าอร่อยเด็ด โดยเฉพาะ คาจาปูรี Khachapuri (Cheese Bread)  ขนมปังแป้งบางกรอบรูปถ้วย มีทั้งทรงกลม สี่เหลี่ยม และเรือ แตกต่างกันไป ตรงกลางมีไข่ เนย ชีส เสิร์ฟร้อนๆ แต่วันนี้พวกเราทานกันแล้ว ค่อนข้างเค็มไปนิด กระทั่ง รามาซ ยังออกปากเลยว่าเค็ม  

ระหว่างรออาหาร ออกมาเก็บภาพวิวที่ระเบียงด้านนอกกัน

หลังทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็ออกเดินทางกันต่อ เส้นทางคดเคี้ยวตลอดทาง จนเย็นพวกเราก็บรรลุถึงเมือง Mestia  ที่พักเราวันนี้ เป็นเกสเฮาสต์ ที่เค้าระบุว่าให้เราสามารถทำครัวได้ เลยวางแผนกันว่าจะเอาเสบียงที่ขนมาจากเมืองไทย และ ซื้อเนื้อสัตว์และผัก ที่นี่ มาทำทานกัน แต่คงมีการเข้าใจผิด ทางเจ้าของบ้าน คงคิดว่าพวกเราคงแค่อุ่นอาหารทาน เลยตกใจที่พวกเราขนอาหารมาทำกันจริงจัง แต่ง้างนกแล้วไม่เหนี่ยวไกปืนได้ไง เตรียมกันมาขนาดนี้ ก็ให้นางตกใจไป ยังไงก็ต้องทำให้สำเร็จ นอกจากนี้เรายังเชิญ รามาซ ให้มาร่วมทานอาหารเย็นด้วยกันด้วย อาหารเย็นนี้คือ กระเพราเนื้อ ต้มยำไก่ ยำปลากระป๋องที่ใส่ผงลาบ  ไข่เจียว และพวกน้ำพริdต่างๆ ที่ขนกันมา  รามาซก็นำไวน์มามอบให้ 1 ขวด ซึ่งเป็นธรรมเนียมของคนที่นี่ เค้าจะมาร่วมทานอาหารโดยไม่ไปตัวเปล่า ดูท่า รามาซ จะติดใจ ต้มยำไก่ และ ผัดกระเพรามาก ถามเครื่องปรุง และชมไม่ขาดปาก จนวันสุดท้าย เราเหลือวัตถุดิบที่ขนมาหลายอย่าง ก็มอบให้รามาซ ซึ่งรามาซก็รับไปด้วยความยินดี เราก็ไม่รู้ว่า เค้าจะเอาไปทำอาหารเอง หรือ อาจจะนำไปมอบให้ลูกค้าคนใหม่ ที่เป็นคนไทย ได้ประหลาดใจกันแน่

พรุ่งนี้พวกเราจะสำรวจ Mestia ติดตามได้ค่ะ

Somerset's Memories: Georgia : Mestia - Ushguli