Saturday, 1 July 2023

ปู๊นปู๊น นั่งรถไฟไปตลาดร่มหุบ แม่กลอง

 


ทริปนี้พวกเราอยากเปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยว โดยเดินทางด้วยรถไฟ จุดหมายปลายทาง ตลาดร่มหุบ แม่กลอง

ตลาดนี้ปกติเป็นทางผ่านเวลาเดินทางไปชะอำ เพชรบุรี ที่เรามักจะแวะจ่ายตลาดซื้ออาหารทะเล ไปทำทานกันที่ชะอำ แต่ครั้งนี้แปลกออกไป เพราะเราเน้นบรรยากาศการนั่งรถไฟ ตั้งแต่ต้นทางคือ สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ แวะเปลี่ยนขบวนที่มหาชัย และเดินทางต่อไปสิ้นสุดที่ตลาดแม่กลอง 

บรรยากาศเป็นยังไง ติดตามกันได้ค่ะ

พวกเรานัดพบกันที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ก่อน 7.30 โมงเช้า  เพื่อให้ทันรถไฟขบวน 7.40 น. แต่ถ้าไม่ทันก็ยังมีขบวน 8.30 น.  ที่เลือกขบวน 7.40 น.  เพราะขบวนนี้มีตู้ปรับอากาศ ส่วนขบวน 8.30 น. ไม่มีตู้ปรับอากาศ ตามประสาคนกรุงที่ติดความสบาย เราเลือกขอได้แอร์นิดนึงก็ยังดี  

เหตุผลอีกประการนึง เราต้องเปลี่ยนขบวนใหม่ที่ สถานีบ้านแหลม ท่าฉลอม ซึ่งหมายความว่า เราต้องไปลงที่สถานีมหาชัย และลงเรือข้ามฝากจากฝั่งมหาชัย ข้ามฝั่งไปท่าฉลอม จากท่าเรือท่าฉลอมต้องเดินไปสถานีบ้านแหลม จุดเริ่มต้นของขบวนรถไฟสาย ท่าฉลอม-แม่กลอง ซึ่งเราตั้งใจจะให้ทันขบวนเวลา 10.00 น. เพื่อให้มีเวลาเที่ยวในแม่กลอง ซึ่งอาจจะไปเดินเล่นที่อัมพวาด้วย


ค่าโดยสารจาก สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟมหาชัย ถูกมากแค่ 10 บาท และจ่ายเพิ่มอีก 15 บาท สำหรับตู้โดยสารปรับอากาศ  รถไฟออกจากสถานีวงเวียนใหญ่ ไปมหาชัย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยจอดตามสถานีต่างๆไป 19 สถานี รถไฟค่อนข้างว่าง เพราะเราเดินทางสวนทางกับคนที่เข้ามาทำงานในเมือง เลือกนั่งกันสบายๆ เราซื้ออาหารกล่องขึ้นมาทานกันบนรถไฟ แต่เราก็เหลือบไปเห็นข้อความที่ติดไปบนตู้ปรับอากาศว่า ห้ามนำอาหารที่มีกลิ่นแรงมาทานบนตู้นี้ ( ถ้าตู้ธรรมดาไม่เป็นไร) เลยรีบทานกันเพราะเปิดกล่องแล้ว รีบทานรีบเก็บก่อนนายตรวจจะมาพบ



8.39 น. รถไฟก็เข้าสถานีมหาชัย ตรงเวลาดีมาก ไม่ได้นั่งรถไฟแบบนี้มานานมากแล้ว ก็ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศ รถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย เก่าไปนิดทั้งเก่าทั้งไม่ค่อยสะอาด การรถไฟน่าจะดูแลให้มากกว่านี้  


จากสถานีมหาชัย เราต้องเดินไปลงเรือข้ามฝากไปท่าฉลอม 2 ข้างทาง เป็นตลาดอาหารทะเล ที่ทั้งสดและราคาถูกมาก ก็ได้แต่กลืนน้ำลายด้วยความอยากซื้อ แต่ต้องยั้งไว้เพราะกว่าเราจะกลับก็คงเย็นค่ำแล้ว ของคงเน่าเสียซะก่อน   ฝากไว้ก่อน คราวหน้ากะว่าจะนั่งรถไฟมาจ่ายตลาดที่นี่ให้คุ้มเลย







ไม่ซื้อก็เดินชมตลาดเป็นอาหารตาก็ได้ พักใหญ่ก็เดินมาถึงท่าเรือมหาชัย ก่อนลงเรือก็ขอแวะไหว้ศาลหลักเมืองของมหาชัยเอาฤกษ์เอาชัยซะหน่อย




ฝาท่อมหาชัย เป็นหลักฐานว่าเรามาเหยียบมหาชัยแล้ว



แวะถ่ายภาพกับปลาใหญ่ที่ท่าเรือกันสักนิด


ลงเรือข้ามฝากแล้ว เรือใหญ่รับได้ทั้งคน และรถมอเตอร์ไซค์ 








นั่งรอเรือออกตั้งนาน แต่พอเรือออกจากท่า แป๊บเดียวก็ข้ามมาฝั่งท่าฉลอมแล้ว สมกับเพลง " ท่าฉลอมกับมหาชัย จะคิดทำไมว่าไกล เชื่อมความรักไว้ดีกว่า " 



เมื่อก่อนจำได้ว่า ก่อนโควิทเคยมาเดินเล่นถ่ายรูปที่ท่าฉลอม ตอนนั้นคึกคักมาก คนเดินกันแน่น ร้านค้าร้านอาหารเฟื่องฟูมาก ตอนนี้ค่อนข้างเงียบเหงา 



ที่ท่าเรือท่าฉลอม มีมอไซค์รับจ้าง พาไปส่งที่สถานีรถไฟบ้านแหลม สำหรับคนที่ขี้เกียจเดิน แต่พวกเราเห็นว่ายังมีเวลาเหลืออีกมาก ขอเดินชมเมืองท่าฉลอมไปเรื่อยๆดีกว่า

ถนนหนทางเค้าทำได้ดีมาก สะอาดสะอ้าน มีร้านขายอาหารทะเลตากแห้งหลายร้าน ซึ่งมองดูแล้วคงปรับวิธีการค้าขาย หันไปขายทางออนไลน์กัน เพราะดูเค้ายังมีการวางสินค้าตามปกติ แม้จะมีคนเดินซื้อค่อนข้างน้อยก็ตาม

เค้าพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวกัน ฝาท่อได้รับการทำลวดลายเท่ๆ แวะเก็บภาพกันเพลินเลย














เกือบถึงสถานีบ้านแหลม จะพบ บ้านท่าฉลอม ศูนย์ท่องเที่ยวและกิจกรรมชุมชน แวะกันสักนิด จนท. ซึ่งคงเป็นอาสาสมัคร ดูแล อธิบายประวัติความเป็นมาของชุมชน น่าชมเชยว่ามีการบริหารจัดการได้ดี น่าประทับใจ พวกเราเลยอุดหนุนเสื้อยืดกันคนละตัว





ด้านหลังเป็นท่าน้ำ ชมวิวสวยๆ



อีกนิดก็เดินถึงสถานีบ้านแหลมแล้ว ระยะทางไม่ไกลนัก เบ็ดเสร็จพวกเราเดินจากสถานีมหาชัย ข้ามเรือ เดินต่อมาสถานีบ้านแหลมแวะโน่นแวะนี่ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง


มาถึงสถานีบ้านแหลมไม่นาน รถไฟก็เข้าสถานี สภาพรถไฟใหม่และสะอาดดี สมกับเป็นขบวนที่สำหรับการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวมารอขี้นที่สถานีเยอะมาก มีทั้งคนไทย และต่างชาติ เข้าใจว่าน่าจะเอารถมาจอดที่นี่และนั่งรถไฟเที่ยวไปแม่กลอง






ราคาตั๋วจากสถานีบ้านแหลมไปแม่กลอง แค่ 10 บาท เท่านั้น ดีต่อใจจริงๆ




ก่อนรถไฟเข้าสถานี พวกเราไม่พลาดซื้อไอสครีมกะทิสด ที่รถเข็น ที่ได้รับการบอกต่อว่า ห้ามพลาด อร่อยสมคำร่ำรือ กะทิถึงเครื่องจริงๆ กินยังไม่ทันหมด รถไฟมาก็เลยต้องเอามาหม่ำต่อบนรถไฟ


คนเยอะแต่ก็ไม่มากนักยังมีที่ว่างเหลืออยู่เยอะ แต่พอรถไฟออกไปสักพัก จนเข้าเขตสมุทรสงคราม น่าจะแถวๆสถานีบ้านกาหลง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการทำนาเกลือ พอรถไฟจอด คราวนี้เจอฝรั่งนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวนาเกลือ และเปลี่ยนบรรยากาศนั่งรถไฟไปตลาดร่มหุบ ฝรั่งบุกจนแน่นรถไฟ และเฮฮามาก พวกเรานั่งดูนักท่องเที่ยวฝรั่ง จีน ถ่ายภาพบนรถไฟกันอย่างสนุกสนาน บางครั้งบางตอน ต้องยอมลุกให้พวกเค้านั่งถ่ายรูปหมู่ รูปคู่กัน ก็ไม่ว่ากัน นึกซะว่าเราเป็นเจ้าบ้าน ดูๆแล้วนึกถึงพวกเรา คราวไปเที่ยวย่างกุ้ง เมียนม่าร์ เรามีโอกาสนั่งรถไฟชมเมืองรอบๆย่างกุ้ง พวกเราก็เฮฮาสนุกสนานแบบนี้แหละ



ในที่สุดรถไฟก็เข้าเขตเมือง เตรียมเข้าจอดที่สถานีแม่กลอง แต่ก่อนถึงสถานีต้องผ่านบริเวณไฮไลท์สำคัญ ที่ทุกคนรถคอย คือตลาดร่มหุบ หรือตลาดริมทางรถไฟ พอรถไฟจะเข้าสถานี แม่ค้าก็จะหุบร่มให้รถไฟผ่าน 2 ข้าทางแคบๆ จะมีนักท่องเที่ยวแน่นขนัด





ดูนักท่องเที่ยวเหล่านี้ เค้ามีความสุขยิ้มแย้มเฮฮา คนข้างล่างโบกมือให้คนบนรถไฟ คนบนรถไฟก็โบกมือให้คนข้างล่าง 


รถไฟเข้าสถานีจอดเรียบร้อยแล้ว นักท่องเที่ยวก็เฮกันมาถ่ายรูปกับรถไฟกันครึกครื้น ทำยังกับว่าประเทศตัวเองไม่มีรถไฟงั้นแหละ

คราวนี้เราก็กลายมาเป็นคนด้านล่าง รอดักถ่ายรถไฟออกจากสถานีกลับไปยังสถานีบ้านแหลม 






เรามาถึงเกือบเที่ยงแล้ว ก็ต้องหาขออร่อยทาน เลือกร้านบะหมี่ชื่อดัง ก๋องเมงจั้น บะหมี่เกี๊ยว (บะหมี่ลิ้นชักเก๊ะ) คนแน่นแต่ก็รอไม่นาน อร่อยสมกับที่รอคอย 

อิ่มกันดีแล้ว ยังมีเวลาเหลือเยอะ พวกเราตั้งใจกลับรถไฟเที่ยวสุดท้ายคือ 15.30 น. พอมีเวลา 3 ชั่วโมง ที่แรกที่จะไปคือ ไปไหว้พระหลวงพ่อบ้านแหลมนั่นเอง



ที่แม่กลองเค้ากิ๊บเก๋ ไอเดียดีมาก เค้าแบ่งประเภทความดุของสุนัขข้างถนนตามสีของปลอกคอ  นักท่องเที่ยวจะได้รู้ว่าตัวไหนที่เล่นด้วยได้บ้าง



ไหว้พระแล้วที่ต่อไปคือไปเดินเที่ยวอัมพวา แต่ขอแวะไหว้ท้าวเวสสุวรรณที่วัดจุฬามณี ก่อน เราเหมารถ 2 แถวที่ท่ารถตรงข้ามวัดหลวงพ่อบ้านแหลม กะว่าไหว้ท้าวเวสสุวรรณเสร็จคงพอมีเวลาเดินเล่นอัมพวาสักนิด

แต่อัมพวาวันนี้คนเยอะมาก ติดยาวตั้งแต่ถนนหลัก ดูเวลาแล้วคงไม่ทันแน่ ก็เลยกลับมาที่สถานีมารอขี้นรถไฟกลับท่าฉลอม ระหว่างรอก็แยกย้ายกันไปเดินหาซื้อของฝากกัน แล้วค่อยกลับมาเจอกันที่รถไฟ 







15.30 น. ก็ได้เวลาอำลาแม่กลอง เดินทางกลับท่าฉลอม พร้อมขนมของฝากเต็มกระเป๋า





ก่อนลงเรือที่ท่าฉลอม มีกลอนที่คนในชุมชนแต่งไว้อาลัย หมูปิ้ง สุนัขจรจัดที่เป็นที่รักของคนในชุมชม แต่งได้ดีมาก


จากท่าฉลอม เราเดินทางกลับตามเส้นทางเดิม แต่ลงที่สถานตลาดพลู เพื่อหาอาหารทานกันก่อนที่จะแยกย้ายกลับบ้านกัน  




No comments:

Post a Comment

ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......