Tuesday, 26 November 2024

Jiuzhaigou-Huanglong-Bipenggou #2

#2 Jiuzhaigou ( 28-30 Oct 2024 )


ตอนแรก  หวงหลง   Somerset's Memories: Jiuzhaigou-Huanglong-Bipenggou #1 

และแล้ว ก็มาถึงไฮไลท์ของทริป คือ จิ่วจ้ายโกว

จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติขนาดใหญ่ ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 500 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ A5 ของจีน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดย UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1992 คำว่า จิ่วจ้ายโกว หมายความว่า ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน เนื่องจากในสมัยก่อนมีหมู่บ้านของชาวทิเบตอยู่ 9 หมู่บ้าน ภายในพื้นที่อุดมไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและมีความหลากหลาย จนเรียกได้ว่าเป็น สวรรค์บนดิน สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดู ซึ่งเราก็จะได้เห็นเสน่ห์และความสวยงามของจิ่วจ้ายโกวที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบอัลไพน์หลากสี น้ำตก ภูเขา และป่าไม้ แต่ช่วงเวลาที่ถือเป็นไฮไลท์ที่สุดของที่นี่ก็คือ ฤดูใบไม้ร่วง ที่ละลานตาไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีทั่วหุบเขา




เช้านี้ เนื่องจากเราตัด Mounigou Scenic Area (牟尼沟风景区) ออกไป ระยะทางจากซงฟานไปจิ่วจ้ายโกว แค่ 2 ชม. ก็ถึงแล้ว พวกเราจึงสบายๆ ทานอาหารเช้าและเช็คเอาท์โรงแรมออกสายๆหน่อย ระหว่างทาง ก็ขอให้อาใช่ ช่วยแวะวัดจีน หรือ หมู่บ้านโบราณเก่าๆข้างทางให้บ้าง

จุดแรกก็เป็นหมู่บ้านข้างทาง เป็นหมู่บ้านจีนที่มีวัฒนธรรมทิเบตปะปนอย่างเห็นได้ชัด เดินเล่นกันรอบหมู่บ้านที่เงียบสงบ มีคนจีนเดินผ่านบ้างก็ทักทายกันแบบยิ้มให้กัน 









แวะเดินในวัดทิเบต 











และแวะกันตรงจุดที่ผ่านเข้าเขต จิ่วจ้ายโกว 










เที่ยงกว่าๆ เราก็มาถึงปากทางเข้าจิ่วจ้ายโกว ตรงนี้จะเป็นชุมชนใหญ่ เพราะเกือบทุกคนที่มาจิ่วจ้ายโกว ต้องมาพักตรงจุดนี้ ซึ่งใกล้ปากทางเข้ามากที่สุดแล้ว  จะมีโรงแรมที่พักตั้งแต่โรงแรมใหญ่ จนถึงเกสเฮาส์ ร้านอาหารก็เยอะมาก เลือกทานกันได้ตามอัธยาศัย  


ร้านนี้ อาใช่ บอกว่าคนไทยชอบมาทานกัน อาหารก็อร่อยดี ผัดเห็ดเค้าก็อร่อยดี เห็ดที่นี่เค้าไม่ได้ใช้เห็นสดๆมาปรุงอาหาร แต่จะเอาเห็ดไปตากให้แห้ง  เวลาใช้ก็เอาไปแช่น้ำอุ่นๆ ให้เห็ดนิ่ม แล้วค่อยเอามาปรุงอาหาร  เค้ามีเห็ดแห้งขายด้วย ครึ่ง กก. 50 หยวน  เราก็ซื้อกันคนละถุง เอามาทานที่กรุงเทพ ทำอาหารไปหลายมื้อ ใช้เห็ดใส่ด้วย จนป่านนี้เห็ดยังไม่ยุบเลย เยอะจริงๆ

คืนนี้และพรุ่งนี้ เราพักกันที่ Holiday INN EXP Jiuzhaigou ซึ่งอยู่ปากทางเข้าจิ่วจ้ายโกวเลย รอบด้านด้วยร้านค้าร้านอาหาร  สะดวกมาก 




หลังจากเราโด๊ปยากินยาทา แก้คลายเส้นกันแล้ว  เช้านี้อาการทั้งหลายก็กลับมาปกติ พร้อมลุยในจิ่วจ้ายโกวได้แล้ว  อาใช่ซื้อบัตรเข้าให้พวกเราเรียบร้อยแล้ว และพาพวกเรามาส่งทางเข้า  เวลาก็นำพาสปอร์ตไปสแกนตรงประตูทางเข้าก็เข้าได้เลย






เมื่อผ่านประตูเข้ามาแล้ว ขึ้นรถบัสเพื่อให้พามาลงตรงจุดแรก  คือแยกตัววาย ซื่งจะมีทางแยก 2 ทางคือขาของตัววายด้านซ้ายและด้านขวา เราไปทางแยกด้านซ้ายก่อนเหมือนคนทั่วไป จุดนี้เมื่อลงมาแล้ว จะมีทางเดินลงไปยังลำธารด้านล่าง ซึ่งจะมีน้ำตกเล็กๆสายหนี่ง









เราเดินมาตามทาง น่าจะประมาณ กิโลกว่าๆ ก็จะถึงจุดขึ้นรถ เพื่อไปต่อจุดต่อไป จุดนี้ลงไปจะพบทะเลสาปที่กว้างใหญ่สีฟ้าสดใส 


















แอบส่องสาวจีน ที่โพสท่าถ่ายภาพอยู่ เพราะเห็นแสงสวยๆจนอดไม่ได้




จากจุดนี้เดินต่อไปสักพัก จะเจอทะเลสาปเล็กๆ แต่สีน้ำเป็นสีฟ้าเข้มสวยงามมากๆ








จากจุดนี้เราขึ้นรถย้อนกลับมา กะว่าจะมาขึ้นรถไปยังแยกตัววายอีกด้าน แต่เราก็ลงป้ายไม่ถูก จนรถพามาส่งที่ทางเข้าแรกเลย หลังจากไปคุยกัน จนท. ว่าพวกเราลงผิดป้าย เราต้องการต่อรถไปอีกด้าน คือพวกเราต้องการไปด้านทะเลสาป 5 สี และแบมบูเลค  จนท.ใจดีมาก บอกว่าปกติถ้ามาถึงตรงจุดนี้ คือสิ้นสุดต้องออกจะเข้ามาใหม่ไม่ได้  แต่สำหรับพวกเรา จนท.อนุโลมให้ และยังใจดีพามาส่งที่รถ สั่งคนรถและเด็กประจำรถให้พาพวกเราไปส่งอีกด้านนึง และก็ไม่รู้ว่าการสื่อสารมีการผิดพลาดยังไร

ปรากฎว่า รถคันนี้มีพวกเราอยู่ 6 คน คนขับพาเราไปจนถึงจุดสุดท้ายของอีกด้าน (Jianyan)  และให้เด็กประจำรถพาเดิน พวกเราบอกไม่เป็นไรเราจะเดินเอง เด็กบอกไม่ได้จ้า หน.สั่งไว้ให้พาพวกเราไปเที่ยว และพากลับมาส่ง คือเหมือนเราเหมารถเที่ยวเอง ซึ่งดูเป็น VIP มาก



ตอนขากลับ คนขับถามว่าอยากลงตรงไหน หรือจะให้พาไปทางออกเลย เราตั้งใจบอกว่าขอลงตรงน้ำตก จุดแรกที่พวกเราลงกันตอนเช้า แต่เราไม่รู้ว่ามีจุดน้ำตก 2 จุด และจุดนี้เป็นน้ำตกใหญ่ กลายเป็นดีไป 

















ที่จริงยังมีหลายจุดที่ยังไม่ได้ลงไป เช่นทะเลสาป 5 สี และ แบมบูเลค  แต่เย็นมากแล้ว และหมดแรงเดิน จึงขอจบแค่นี้  ไว้โอกาสหน้าฟ้าใหม่ คงได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง

ตอนต่อไป คือ ปี้ผิงโกว  ติดตามต่อกันได้ค่ะ





No comments:

Post a Comment

ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......