ติดตามตอนแรก เวียนนาได้ที่นี่
https://somersetmghm.blogspot.com/2020/02/europe-2019-vienna.html
จากสถานีรถไฟ Budapest-Keleti เรานัดให้ทางอพาทเม้นต์ ส่งรถตู้มารับพวกเราที่สถานีรถไฟ เพราะหลังจากคิดค่าใช้จ่ายแล้ว ไม่แตกต่างกันมากนัก และเราก็ไม่ต้องลากเข็นกระเป๋า และเดินหาอพาทเม้นต์ด้วย เราเลือกพักที่ Central Passage Apartments - Budapest โดยจองผ่าน Booking.com และไม่ผิดหวังเลย ที่พักดีสะอาดดูทันสมัย ที่สำคัญคืออยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ห่าง St. Stephen's Basilica 700 ม. ใกล้ทางขึ้นรถไฟใต้ดิน ที่สถานี Deák Ferenc tér แค่เดินข้ามถนนจากปากซอยที่พัก และที่ได้ใจมากคือใกล้ซุปเปอร์มาร์เก็ต Roni ABC , Príma เราซื้่ออาหารสดมาปรุงอาหารกันอย่างอิ่มเอม
ค่าเงินของ ฮังการี 1 บาท = 9.96 HUF ซื้ออะไรก็เอา 10 หาร รื่นเริงบันเทิงข้อปกันมาก โดยเฉพาะพวก วิตามินต่างๆ ที่บ้านเราขายเป็นหลอดเกือบ 2ร้อยหรือกว่า 2 ร้อยบาท ที่นี่ราคา ไม่ถึง 30 บาท ชีสกล่องกลมที่เราเอามากินกับกล้วยหอม ราคาไม่ถึง 20 บาท โกยซิจ๊ะรออะไร
คืนแรกเรามาถึงดึกมากแล้ว ตอนเข้าที่พัก จนท. พาเราไปส่งที่ห้อง แล้วก็จากไป บอกให้ไปชำระค่าที่พักที่ออฟฟิศในวันรุ่งขึ้น น่ารักจริงๆ
เช้านี้เราทำอาหารจากเสบียงที่แวะซื้อที่สถานีรถไฟที่เวียนนา เรามีเครื่องแกงกะหรีญี่ปุ่นติดมา ก็ทำแกงกะหรีกินกันหม้อใหญ่ หอมฉุยกะว่าตอนเย็นกลับมาคงเข้าเนื้ออร่อยกว่านี้ อิ่มแล้ว ก็เริ่มต้นทัวร์กัน
วันนี้เราจะไป Buda Castle หลังจากนั้นก็จะไปชมรัฐสภาที่ว่ากันว่า สวยที่สุดในโลก เราจองทัวร์เข้าชมภายในรัฐสภาผ่านเว็บไซด์รัฐสภาฮังการี มาจากเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว ตอนเย็นก็จะมาที่ Fisherman's Bastion เพื่อชมแสงเย็นกับไฟกลางคืน
ออกจากที่พักเดินมาหน้าปากซอย ขึ้นรถเมล์สาย16 ประมาณ 4 ป้าย
จุดแรกที่เราแวะคือจุดชมวิวเมืองด้านหลัง ใกล้อนุสาวรีย์Görgey-szobor
จากอนุสาวรีย์เดินมาอีกนิดก็ถึง Buda Castle ที่จริงเค้ามีทัวร์เข้าชมภายในด้วย แต่เราอ่านประวัติแล้ว พระราชวังนี้โดนระเบิดคราวสงครามโลกครั้งที่2 ราบไปแล้ว ที่เห็นนี้เค้าสร้างใหม่ เลยไม่เข้าให้เสียกะตัง เดินชมรอบๆแทน
และไฮไลท์สำคัญ ต้องไม่พลาด คือวิวริมแม่น้ำดานูบ กับสะพานและอาคารรัฐสภา ฝั่งตรงข้าม
ขากลับ ตอนแรกตั้งใจจะนั่งรถกระเช้าลงมาด้านล่างริมแม่น้ำ แต่คนเยอะมาก เลยเลือกเดินลงตามถนน ซึ่งมีช่วงนึงต้องลงบันไดชันสูงมาก ผลคือเข่าระบม ปวดมากเวลาเดินลงบันได ทำให้ต้องขอแยกทางตอนเย็นไม่ได้ไปดูแสงเย็น และก็กลับเป็นผลดี (ซึ่งจะเล่าให้ฟังต่อไป)
เมื่อลงมาที่ถนนด้านล่างแล้ว เรานั่งรถเมลล์และไปต่อรถใต้ดิน มุดลอดใต้แม่น้ำดานูบ ไปลงที่สถานีKossuth Lajos tér ด้านข้างรัฐสภา เราจองทัวร์ชมภายในรอบ บ่าย2 ทำให้พอมีเวลาหาอาหารเที่ยงทานกัน ก็เลือกร้านข้างๆรัฐสภา ทานเสร็จก็เดิน ไปด้านหลังรัฐสภาลงไปชั้นใต้ดิน ที่เป็นที่เราจะต้องเอาใบจองและชำระเงินแล้วจากเว็บไซด์ และบาร์โค๊ตที่ใช้ในการสแกนเข้า
ภายในรัฐสภา บางจุด จนท.ก็ห้ามถ่ายรูป แต่ส่วนใหญ่ให้ถ่ายรูปภายในได้เต็มที่
จบทัวร์ภายในรัฐสภาก็เกือบ 4โมงเย็น ช่วงนี้มืดเร็ว แต่เรานัด จนท.ของอพาทเม้นท์ไว้ว่าจะมาเคลียร์ค่าห้องตอนเย็น ก่อนไปที่ Fisherman's Bastion เลยมาแวะที่ออฟฟิศปากซอยที่พัก เคลียร์ค่าห้องเสร็จแล้ว ก็ขอแยกกับกลุ่มเพราะปวดหัวเข่ามาก ขอกลับมาพักไม่ไปดูแสงเย็น มีน้องชายและน้องสะใภ้เดินมาส่งเป็นเพื่อน ส่วนคนอื่นๆ เห็นว่าเย็นมากเลยเปลี่ยนแผนไปเดินช้อปปิ้ง เปลี่ยนไปดูแสงเย็นพรุ่งนี้แทน
พอไขกุญแจห้องเปิดเข้าไป กลิ่นเหม็นไหม้และควันเต็มห้อง รีบไปดูที่เตาไฟฟ้า ปรากฎว่าแกงกะหรีที่ตั้งทิ้งไว้ไหม้ดำติดก้นหม้อ ตะหลิวที่คาหม้อไว้หลอมละลายเหลือครึ่งด้าม ปรากฎว่าเราปิดเตาไฟฟ้าไม่สนิท ทำให้เหมือนเราตุ๋นไฟอ่อนๆไว้ จนแห้งไหม้ (นี่ถ้าเรายังมัวแต่ออนทัวร์ตะลอนอยู่ข้างนอกกว่าจะกลับมา 3 ทุ่ม คงไฟไหม้แน่ นับว่ายังโชคดี ) ที่น่าประทับใจ คือเราสารภาพกับ จนท. ว่าเราทำหม้อแกงไหม้ ขอชดใช้ค่าหม้อและตะหลิว จนท.ใจดีมาก บอกไม่เป็นไรเด้วซ่อมได้ (ไม่รู้ว่าตอนหลังมาเห็นของแล้วจะว่ายังไง )
คืนนี้หลังจากหาสเปรย์ปรับอากาศมาฉีดเพื่อให้กลิ่นเบาบางลง และเปิดหน้าต่างประตูให้อากาศถ่ายเท แต่ก็เปิดนานไม่ได้ เพราะข้างนอกหนาวมาก ก็ต้องทนนอนดมกลิ่นไหม้ไปอีก 2 คืน
เช้าวันที่3 เรายังอยู่ที่บูดาเปสต์ วันนี้โปรแกรม จะไปที่ Heroes' Square , Vajdahunyad Castle และ Széchenyi Kertvendéglő จากที่พักเรานั่งรถไฟใต้ดิน ไปลงที่สถานี Hősök Tere
ถ่ายภาพหมู่กับมุมมหาชนกันที่ Heroes' Square หรืออนุสาวรีย์ทหารนิรนาม
เราเดินอ้อมหลังอนุสาวรีย์ จะพบสะพาน เบื้องล่างอากาศเย็นจนน้ำในแม่น้ำเป็นน้ำแข็ง กลายเป็นลานสเก็ตให้ชาวเมืองสนุกกัน
ยืนดูเค้าเล่นกัน เราไม่สนุกด้วยเพราะเล่นไม่เป็น แต่มากรี๊ดกร๊าดกับใบไม้เหลืองเต็มสนามหญ้ากันแทน
และเราก็เดินมาจนถึง Vajdahunyad Castle
ภายนอกเหมือนปราสาทในนิยาย จากจุดนี้เราเดินต่อไป โรงอาบน้ำพุร้อนแบบตุรกี Széchenyi Gyógyfürdő és Uszoda แต่ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ เพราะเค้าให้เฉพาะลูกค้าที่มาอาบน้ำเท่านั้น เลยไม่รู้ว่าด้านในเป็นยังไง
จากที่นี่ เราตั้งใจไปเดินตลาดกลางและหาของกินทานกัน ปรากฎว่าแห้ว เพราะตลาดปิดวันจันทร์ แต่ยังดีมีซุปเปอร์ใต้ดินเปิด ยังไงขาช้อปก็ไม่พลาด ขนวิตามินและชีส กลับมาทานพิซซ่าร้านอาหารแถวๆที่พักแทน
จากนั้นก็แยกกับคณะใหญ่ที่ไปดูแสงเย็นที่ Fisherman's Bastion เพราะเคยไปมาแล้ว โดยขอแยกไป St. Stephen's Basilica เดินไปประมาณ 700 ม. หน้าโบสถ์มีตลาดนัดคริสมาสต์ ด้านในค่อนข้างมืด ก็พยายามประคองกล้องให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้
ออกมาด้านนอกที่คนกำลังเนืองแน่น
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่บูดาเปสต์ พรุ่งนี้เช้ามืดเราจะออกเดินทางต่อไป เมืองคาร์คูฟ ประเทศโปแลนด์ ติดตามตอนต่อไปได้ที่
No comments:
Post a Comment
ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......