30 Nov - 10 Dec 2023
ดูตอนก่อนหน้านี้ได้ที่
Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่1 ( Seoul เดินทางวันแรก ) (somersetmghm.blogspot.com)
และแล้วเราก็นั่งรถไฟมาถึงปูซานโดยสวัสดิภาพ
มาถึสถานีรถไฟปูซาน ในสถานีกว้างขวางมีร้านค้าร้านอาหารมากมาย เลยตกลงใจหาอาหารกลางวันทานกันที่นี่แหละ ขึ้นไปชั้น2 มีร้านอาหารให้เลือกหลายร้าน ลองเข้าไปร้านนึงเพราะเห็นมุมกาแฟน่าทาน คนเยอะพอควร เข้าไปก็งงว่าจะทำยังไง ไม่เห็นมีพนักงานมาต้อนรับ หรือเราต้องหาที่นั่งเอง หาที่นั่งแล้ว จะสั่งอาหารยังไง ก็ไปเมียงๆมองๆดูเห็นเค้าสั่งอาหารผ่านเครื่องกัน แต่.....มันเป็นภาษาเกาหลี เอาดิจะเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษยังไง ถามคนที่รอข้างหลังว่าจะเปลี่ยนภาษายังไง เค้าก็มาช่วยกดๆดูให้ ก็ไม่รู้ว่าเค้าทำไม่เป็น หรือ ทำไม่ได้ พวกเราเลยล่าถอยไปร้านข้างๆอีกร้าน ก็ระบบสั่งแบบเดียวกัน แต่ดีที่พนักงานอาจุมม่า ที่อยู่ในร้านเห็นพวกเราเก้ๆกังๆ ทำอะไรไม่ถูก ก็เลยมาช่วยรับออเดอร์ให้ เลยรอดไปอีกมื้อ มื้อนี้เราก็ดูรูปแล้วจิ้มสั่ง มีพวกซูปกิมจิรสชาติเหมือนกินแกงส้มบ้านเรา แต่ไม่แซ่บเท่า เกี้ยวน้ำหรือมันดู( Mandu ) ก็ไม่ค่อยอร่อยมีแต่แป้งน้ำซูปพอได้
อิ่มแล้ว ก่อนออกจากสถานีก็ไม่ลืมไปจองตั๋วกลับโซล เราซื้อตั๋วรถไฟ KTX แบบ Flexible 2 วัน ภายใน 10 วัน เราใช้สิทธิ์ขามาไปแล้ว เหลือขากลับอีก 1 สิทธิ์ ไปเข้าคิวที่เคาเตอร์ขายตั๋ว ยื่นเอกสารที่เราซื้อออนไลน์ให้เค้าดู เค้าก็พิมพ์ตารางรถวันที่เราจะกลับให้เราเลือกเวลา และพิมพ์ตั๋วให้ คราวนี้ไม่โง่แล้ว เลือกขบวนที่จอดน้อยที่สุดคือแค่ 3 สถานี แต่เวลาก็ไม่ได้ต่างจากขามามากนัก แต่ก็ดีที่คนไม่พลุกพล่าน
เราเดินทางไป โรงแรมที่พักชื่อ Central Park Hotel Busan อยู่ย่านถนนคนเดิน Nampodong เราใช้กูเกิ้ลแม๊มเสริชหารถเมล เลือกเอาป้ายรถเมลด้านหลังสถานีที่เดินง่ายไม่ต้องข้ามถนน มาถึงโรงแรมแล้ว ได้ห้องพักวิวดีพอใช้ มองเห็นทะเลผ่านช่องว่างของตัวอาคาร
นับว่าเลือกโรงแรมไม่ผิด ห้องกว้างขวางดีมาก ระบบแอร์เค้าเปิดเป็นฮีทเตอร์หน้าหนาว เราก็ปิดซะ และเปิดหน้าต่างแง้มๆเอาไว้แทน ไม่งั้นหายใจไม่ออก ถนนหน้าโรงแรมต้นแปะก๊วยกำลังทิ้งใบเหลืองสวยทั้งถนน ตรงข้ามโรงแรมเป็นสถานีตำรวจ รอบๆโรงแรมก็เป็นร้านอาหารที่มีให้เลือกมากมาย เดินไปช้อปปิ้งก็ไม่ไกลนัก
พักกันสักพัก ก็เริ่มโปรแกรมแรก เราเลือกเดินไปห้าง Lotte ขึ้นลิฟต์ไปชั้น11 เพื่อไปยัง Lotte Gwangbok Observatory ชมวิวอ่าวปูซาน
สักพักก็ลงมาเดินถนนคนเดิน วันนี้ยังเป็นวันธรรมดาของที่วางขายยังไม่เยอะ และเรามีคนป่วยในคณะ เลยกลับมาพักที่โรงแรม
เดินผ่านมาซอกข้างโรงแรม เห็นเต้นท์ขาวมีคนนั่งในเต้นท์ โอ..ใช่แล้วร้านอาหารริมทาง เร่เข้าไปส่องๆดู ร้านอาหารเล็กๆมีโต๊ะ 2-3 โต๊ะ คนขายเลยมากางเต้นท์ด้านนอก เพิ่มได้อีก 3 โต๊ะ พวกเราอยากนั่งในเต้นท์แต่โต๊ะเต็ม พอดีโต๊ะในร้านลุกออก เลยได้โต๊ะ คนขายมีคนเดียวเป็นคนหนุ่มทั้งขายและเป็นพ่อครัว ทำงานเงียบมาก แต่ไวมาก อาหารมีให้สั่ง 4-5 อย่างไม่เยอะ แต่อร่อยทุกจาน จานแรกคนขายแนะนำเป็นเนื้อวัวแล่บางๆม้วนห่อถั่วงอกนึ่งในเข่งไม้ไผ่ จิ้มน้ำจิ้ม นุ่มอร่อยมาก จานที่2 เป็นปลาหมึกนึ่งทั้งตัวก็อร่อย และจานสุดท้ายแพนเค้กไข่ใส่ต้นหอมทอดกรอบๆแบบหอยทอด ก็อร่อยอีกจาน อร่อยจนต้องกลับมาซ้ำอีกวัน
วันที่3 - 2 ธันวาคม 2566
โปรแกรมวันนี้เอาเบาๆ เพราะน้องสะใภ้ยังไม่หายไข้ เราเลือกเอาที่เดินน้อยๆ รถเข้าถึงที่
เช้านี้เราเลือกหาอาหารเช้าทานกันข้างโรงแรม เป็นร้านอาหารท้องถิ่นเล็กๆ มีอาจุมม่าทำครัวอยู่ 2-3 คน เปิดประตูเข้าไป อาจุมม่าก็เชิญให้นั่งและส่งเมนูมีรูปให้ดู เลือกซูปหมูสามชั้นร้อนๆอร่อยดีแต่คำท้ายๆชักเลี่ยน
ที่แรกของวันนี้เป็น วัดซัมกวางซา จากที่พักเราเดินมาขึ้นรถเมลสาย 87 ไปลงที่ Seo-myeon Station แล้วต่อรถเมลเล็กสีเขียวสาย 15 รถเล็กแบบมินิบัส คนแน่นมากเป็นอาจุมม่าสัก 80% คนขับก็ช่างขับแบบยกล้อจริงๆ โหดมากเพราะเป็นทางขึ้นเขาที่แคบและชันเป็นบางจุด เราต้องเกร็งมือจับราวให้แน่นสู้กับแรงเหวี่ยงของรถ
วัดซัมกวางซา (Samgwangsa ) เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา Baekyang mountain เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญและมีชื่อเสียงของเมืองปูซาน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 ภายในวัดมีการสร้างโดยการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ ทั้งเจดีย์ 9 ชั้น ที่มีความสูงประมาณ 30 เมตร และตรงหัวเจดีย์เป็นทองคำรูปทรงดอกบัว และอาคารอื่นๆที่อยู่ภายในวัดก็มีความสวยงามสะดุดตา ทั้งยังมีบรรยกาศที่ร่มรื่นมากๆ อาคารหลักเรียกว่า Jikwanjon ที่สามารถรอบรับผู้คนได้มากถึง 10,000 คน เนื่องจากวัดตั้งอยู่บนยอดเขาทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมือง ปูซานได้อย่างสวยงาม ยิ่งในยามเช้าๆ จะมีแสงแดดอ่อนๆสาดแสงลงมา จะมีความสวยงามที่สุด
น่าแปลกใจที่ไม่ยักมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีแต่อาจุมม่า มาทำบุญกันเต็มวัด ก็ดีไปอย่าง ไม่มีใครสนใจพวกเรา เดินถ่ายภาพสถานที่สวยๆ วิวมุมสูงของเมืองปูซานงามๆกัน
จุดไฮไลท์ คือเจดีย์ขาว 9 ชั้น และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม จะมีอาจุมม่าและหนุ่มๆสาวๆมาไหว้ขอพร และเดินเวียนเทียนกันตลอดเวลา
ด้านข้างผนังกำแพง มีภาพวาดพุทธประวัติตั้งแต่ ประสูติ ดูรู้เรื่องแม้ว่าคนในภาพจะแต่งกายแบบคนเกาหลีก็ตาม สวยงามมาก
เดินเลยมาอีกนิดเป็นทางขึ้นเนิน มายังโบสถ์ที่เค้าทำพิธีทางศาสนา และชมวิวมุมสูงสวยๆ
จนครบรอบกลับมายังที่เดิม เราก็นั่งรถสาย 15 กลับมาลงที่ Seo-myeon Station ป้ายรถเมลที่ลงมา เป็นถนนเล็กๆ ต้นแปะก๊วยกำลังทิ้งใบเหลืองสวยงามมาก เดินชมกันสักพักและหาร้านอาหารทานกัน
เลือกร้านนึงเห็นน่านั่ง เข้าไปแล้วถึงรู้ว่าเป็นอาหารเนื้อวัวทั้งหมด เป็นอาหารชุดกลางวันเป็นเซ็ท เราเลือกซูปกระดูกวัว หอมอร่อยมากเยอะมากต้องแบ่งให้น้องชายช่วย คนอื่นมีสั่งสลัดเนื้อ ก็อร่อยดี น้องชายสั่งผิดได้เนื้อวัวดิบๆแล่มาบางๆ ไม่มีใครกล้าทานเลยเอามาใส่ในชามซูปให้พอสุกๆดิบๆ อาจุมม่าที่มาเสริฟมองค้อนตาคว่ำเลย ของดีๆกินกันไม่เป็น
กลับมาที่พักแล้ว น้องสะใภ้ขอนอนพัก ไข้ขึ้น กะว่าพักกันสักพัก นั่งเล่นโทรศัพท์เพลิน มาดูเวลา 4 โมงเย็นแล้ว วันนี้ก็คงได้แค่นี้แหละ ตอนเย็นเลยออกมาเดินซื้อของที่ถนนคนเดิน ได้รองเท้าผ้าใบ และ เครื่องสำอางลดราคาที่ร้าน Olive Young ของตัวเอง เพราะไม่คิดว่าจะเจออากาศแห้งอย่างนี้ หน้าเหี่ยวมาก ต้องเร่งบำรุงอย่างรีบด่วน
พรุ่งนี้จะไปที่ไหน ติดตามได้ที่นี่นะคะ
Somerset's Memories: เกาหลี เกาใจ ตอนที่3 ( ปูซาน ) (somersetmghm.blogspot.com)
No comments:
Post a Comment
ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......