Hangzhou "บนฟ้ามีสวรรค์ ใต้หล้ามีซูหาง"
ย้อนอ่านตอนก่อนหน้านี้ได้ที่
ตอนแรก Shanghai และรอบๆ #1(Shanghai)
ตอนที่2 Shanghai และรอบๆ #2(Huangling)
ตอนที่3 Shanghai และรอบๆ #3(Wangxiangu)
ตอนนี้เราเดินทางกลับจาก Wangxian Village เพื่อกลับมายังเซี่ยงไฮ้ แต่ขอแวะเที่ยวที่หังโจวก่อน
"บนฟ้ามีสวรรค์ ใต้หล้ามีซูหาง" แสดงให้เห็นถึงการชื่นชมความสวยงามของเมืองนี้ที่มีมาแต่อดีตแล้ว เมืองหังโจวเป็นเมืองหลวงเก่าแก่หนึ่งใน 8 แห่งของจีน เมืองโบราณที่มาของซี่รี่ส์ดัง เจดีย์ 7 ชั้น นางพญางูขาว ทะเลสาบซีหู
เมืองหังโจวมีทรัพยากรภูเขาและสายนํ้าอย่างอุดมสมบูรณ์ มีแม่นํ้ากว่า 130 สายไหลผ่านตัวเมือง จึงได้รับขนามนามว่า "เวนิสตะวันออก"
หังโจว อยู่ห่างจากเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 180 กิโลเมตร จากเซี่ยงไฮ้นั่งรถไฟความเร็วสูง ประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ แต่ถ้ามาจาก วั่งเซียนกู แบบพวกเราก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
เราออกเดินทางจากสถานีรถไฟ Shangrao Station ประมาณตอนเที่ยง ถึงหังโจว Hangzhou East Railway Station บ่ายสองโมงกว่าๆ จากที่นี่เรานั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดง มาลงที่สถานี Ding'an Road station 定安路站 ซึ่งห่างจากที่พักที่จองไว้ไม่ไกลนัก ระหว่างทางมีร้านอาหารมากมายให้เลือก ราคาไม่แรงนัก
แดดร่มลมตก ก็พากันเดินไปทะเลสาปซีหู ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่แห่งนี้ มีเส้นผ่านศูนย์กลางทะเลสาบเป็นระยะทางถึง 3.3 กม เป็นจุดที่มีสถาที่ท่องเที่ยวมากมายรอบๆทะเลสาป จุดหมายแรกคือ Cuiguang Pavilion
ตอนแรกกะกันว่าจะล่องเรือรอบทะเลสาป แต่ทัศนวิสัยวันนี้ไม่ค่อยดี พวกเราเลยเดินเล่นริมทะเลสาปแทน จนค่ำก็ไปดู น้ำพุดนตรีกัน
ก่อนจะเริ่มน้ำพุดนตรี ระหว่างรอก็เชียร์ให้หลานเช่าชุดจีนพร้อมช่างภาพถ่ายรูปริมทะเลสาป
มัวแต่ถ่ายรูปเล่นกัน มาอีกที ปรากฎว่าคลื่นมหาชนมากมายล้นหลาม เข้าไม่ถึงริมทะเลสาป ได้แต่มองดูไกลๆ
จากนั้นก็มาเดินตลาดกลางคืน และหาของกินกัน ไม่ได้อะไรเพราะดูราคาแล้ว ของแบรนด์เนมมาหาซื้อบ้านเราก็ได้ ส่วนของที่นี่ เช่น หัวเว่ยเข้าไปเดินดูรอบๆ ก็จับไม่ติดแพงทุกอย่าง ไม่ว่านาฬิกา หรือ มือถือ ราคาขนาดนี้กลับมาซื้อไอโฟนดีกว่า
วันรุ่งขึ้นเช้านี้ เราจะไปที่ Leifeng Pagoda 雷峰塔 จากที่พักเราเดินไปขึ้นรถเมลล์ คนละ 3 หยวน มาลงที่หน้าเจดีย์ได้เลย เจดีย์โบราณแห่งนี้ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยสร้างครอบบนฐานเจดีย์องค์เดิม เป็นทรงแปดเหลี่ยมสูง 5 ชั้น ที่ผูกพันกับตำนานนางพญางูขาว หนึ่งในตำนานอันโด่งดังที่สุดของจีน
จากพื้นราบขึ้นบันใดเลื่อนมายังชั้น1 ของเจดีย์ และเดินขึ้นบันใดหรือลิฟต์ไปยังชั้น 2 ที่จัดแสดงตัวเจดีย์ของเดิมทึ่ผุพังเหลือแต่ซาก ส่วนเจดีย์สวยๆที่เราเห็นคือสร้างใหม่ครอบเจดีย์เดิมเลย ภายในมีร้านขายของที่ระลึก และรูปเกี่ยวกับตำนาน และเซียน ด้านนอกระเบียงทางเดินรอบเจดีย์ เราจะมองเห็นวัด Jingci Temple 勅建净慈禅寺 ซึ่งอยู่ตรงข้ามมีถนนคั่นไว้
จากจุดนี้ มีลิฟต์ขึ้นไปที่บนยอดเจดีย์ เราสามารถชมวิวทะเลสาปซีหูมุมกว้างได้
ออกจากเจดีย์เดินข้ามถนน จะเป็นวัด Jingci Temple 勅建净慈禅寺 วัดเก่าแก่คู่เมืองหางโจว การเดินชมวัดที่จีน เหมือนกับทุกๆวัดคือจะมีอาคารดักเป็นชั้นๆไป จากอาคารแรก เดินไปด้านหลังขึ้นบันใดไปจะมีอาคารอีกอาคาร ทะลุหลังขึ้นบันไดจะพบอาคารอีกหลัง สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ด้านหลังจะพบ บ่อน้ำให้ตักน่ำเพื่อสรงพระ
อีกอาคารที่น่าสนใจ ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ มีรูปปั้นโบราณ และภาดวาดโบราณ สวยงามมากมาย
อาคารบนสุด เป็นรูปปั้นพระองค์ใหญ่ ด้านนอกระเบียงสามารถชมวิวเจดีย์ Leifeng Pagoda ฝั่งตรงข้าม
ออกจากวัด พวกเรานั่งรถเมลล์กลับมาที่เดิมเพื่อหาอาหารทาน และไปต่อที่สวน Hangzhou Botanical Garden 杭州植物园 เพื่อชมเศียรพระใหญ่ จุดเช็คอินที่เค้านิยมมา
ที่นี่เราเลือกเรียกแท๊กซี่ผ่านแอป ดีดี เนื่องจากพวกเรามี 5 คน ต้องใช้รถ 2 คัน และคนนึงเรียกได้แค่คันเดียว คันที่2 ต้องอีกคนเรียก เพราะต้องจ่ายเงินผ่านแอปของแต่ละคัน ก็นัดกันว่าเจอกันที่ประตูทางเข้าสวน ด้วยความที่คันแรกหวังดีกลัวหากันไม่เจอ เลยส่งพิกัดของ กูเกิ้ลแม้มมาให้ ปรากฎว่าหลงจริงไม่เจอกัน เพราะคันแรกรอที่ประตูหน้า แต่พิกัดที่ส่งมาเป็นประตูหลัง ดีว่าส่วนนี้ไม่กว้างใหญ่นัก จากประตูหลังเดินมาประตูหน้า ประมาณ กิโลกว่าๆ พอทนได้ ( ฉะนั้น จะไปจีนไม่ว่าส่วนไหน ไม่แนะนำให้ใช้ กูเกิ้ลเม้ม เพราะ เพี้ยนมากมาย )
ไฮไลท์ที่นี่คือที่ Hanmeilin Arts Museum 韩美林艺术馆 ซึ่งด้านหน้ามีเศียรพระใหญ่ เราไปถึงแดดกำลังสวย มีคนเข้าคิวรอถ่ายรูปพอประมาณ แต่พอถึงคิวกลุ่มเราแสงก็หมดพอดี
