Thursday 26 December 2013

ใบไม้เปลี่ยนสีที่ โอซาก้า เกียวโต นารา


 สนามบินคันไซ โอซาก้า  เคยดูในสารคดีการสร้างสนามบินว่าสร้างบนเกาะที่เกิดจากการถมขยะ การก่อสร้างสนามบินท้าทายงานคำนวณทางวิศวกรรมอย่างมาก  ดังนั้นเมื่อได้มีโอกาสมาเยือนจึงตื่นเต้นที่จะได้เหยียบสนามบินแห่งนี้

แต่เมื่อมาถึงแล้ว กลับไม่เห็นความยิ่งใหญ่ของสนามบิน หรือ รูปแบบสถาปัตยกรรมที่ไม่มีอะไรให้น่าตื่นตาตื่นใจ ดูธรรมดามาก







ออกจากสนามบินวิ่งข้ามสะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะสนามบินคันไซและแผ่นดินเมืองโอซาก้า ระยะทางกว่า 2 กม.




เก็บภาพบ้านเรือนริมทาง







สถานที่แรกที่ไปเที่ยวชมคือ ปราสาทคิคาคุจิ หรือปราสาททอง หรือ ปราสาทอิคิวซัง นั่นเอง เนื่องจากเป็นต้นฤดูหนาวใบไม้พึ่งเริ่มเปลี่ยนสีจากเ ขียวเป็นเหลืองยังไม่ค่อยแดงเท่าไหร่




มุมมหาชน ภาพปราสาทคินคาคุจิ กับเงาสะท้อนน้ำ






 สวนญี่ปุ่นที่สะท้อนคติธรรมแบบเซน






 ป้ายอธิฐาน



 มื้อแรกของทริป คือชุดหม้อไฟ หรูหรามีระดับและอร่อยมาก สาหร่ายและงาที่โรยบนข้าวอร่อยมาก




อิ่มจากมื้อกลางวัน เราก็ไปนั่งรถไฟสายธรรมชาติ โทร๊อคโคะ เป็นรถไฟท่องเที่ยวที่วิ่งผ่านทิวทัศน์ธรรมชาติที่สว ยงาม 2 ข้างทาง ผ่านอุโมงค์ที่เจาะทะลุภูเขาเป็นช่วงๆ

ด้านหน้าสถานีรถไฟจะมีเต้นท์ขายสินค้า otop ของที่นี่ ของถูกและสด มหกรรมการช้อปเริ่มต้นแล้ว






 รถไฟมาแล้ว เป็นรถไฟที่ตกแต่งให้สามารถมองวิวทิวทัศน์ได้ดีที่สุ ด





 ทิวทัศน์สองข้างทาง ถ่ายมาได้แค่นี้เอง








 เราไปไม่สุดทางแวะลงที่สถานีกลางทาง เพื่อเดินไปยังป่าไผ่ที่เลื่องชื่อของเมืองนี้ นักท่องเที่ยวเยอะมาก หาจังหวะที่เหมาะๆไม่ค่อยได้ ได้มาแค่นี้เอง







 น่าชื่นชมการอนุรักษ์สถานที่ของญี่ปุ่น ทำได้ดีมาก แม้กระทั่งรถลากก็ยังมีคนหนุ่มๆแต่งกายแบบโบราณรับจ้ างลากรถและช่วยถ่ายรูปให้กับนักท่องเที่ยว





 สุดปลายทางก่อนไปยังที่จอดรถ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่แต่งร้านได้สะอาดและกลมกลืนดูดี มาก จุดเด่นของสินค้าญี่ปุ่นคือการห่อสินค้าที่พิถีพิถัน และแข่งขันในด้านความสวยงามกันเต็มที่





 บางร้านก็เป็นร้านจัดแสดงและสาธิตการทำตุ๊กตาญี่ปุ่น ไม่ห้ามการถ่ายภาพอยากถ่ายก็ถ่ายไป






 ลูกพลับญี่ปุ่น ลูกดกเต็มต้นตามบ้านต่างๆ รสหวานหอมมากๆ




และมื้อเย็นเนื้อย่างแบบบาบิวคิวญี่ปุ่น ก่อนเข้าพักที่โรงแรมเมืองนารา คืนนี้หัวถึงหมอนก็หลับปุ๋ย เพราะเดินทางมาทั้งคืนไม่ค่อยได้หลับ



 วันที่2 ที่นารา เราไปวัดโทโคจิ ก่อนถึงวัดต้องเดินผ่านสวนกวางที่ถูกปล่อยให้อยู่ตาม ธรรมชาติและเชื่องมาก





 ระหว่างทางก็ชมสวนญี่ปุ่นที่ตกแต่งได้อย่างสวยงามไม่ มีสิ่งแปลกปลอมสมัยใหม่มาปนให้รกตาแต่อย่างใด






 ด้านหน้าวัดโทไดจิ






 ก่อนเข้าวัด มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้ล้างหน้าและดื่ม




 ด้านในเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่รูปสัมฤทธิ์เก่าแก่ตั้ง แต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่18









เและเสาไม้ต้นใหญ่ที่เจาะรู ถ้าใครลอดผ่านจะโชคดี ผู้ใหญ่ดูเฉยๆไม่ใครกล้าทดลอง ส่วนเด็กๆญี่ปุ่นสนุกสนานมาก




 ระหว่างช่วงชุลมุนที่ทุกคนกำลังเลือกซื้อของที่ระลึก ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะเดินแยกไปหามุมสวยๆเก็บภาพ







วัดต่อไปเป็นวัดคิโยมิชิ เป็นวัดที่สร้างด้วยท่อนซุงขนาดมหึมา ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มีน้ำศักดิ์สิทธิ์จากน้ำ 3 สาย ที่เชื่อว่าดื่มแล้วจะเป็นสิริมงคลแก่ตัว

น่าเสียดายว่า มุมที่จะเก็บภาพตัววัดที่สร้างด้วยท่อนซุงให้หมดต้อง เดินขึ้นเนินไปไกล ไม่อยู่ในเส้นทางการเดินของคณะทัวร์ จึงได้แต่มองด้วยความเสียดาย



แต่ไม่เป็นไร ชดเชยด้วยการไล่ถ่ายภาพ เด็กสาวญี่ปุ่นที่แต่งกิโมโนมาไหว้พระแทน สดใสสนุกสนานตามวัย เราก็แอบเก็บภาพตามไปด้วย








 ศิลปะญี่ปุ่น และ ร้านน้ำชาริมทาง 




จากนั้นก็ไปต่อกันที่โรงถ่ายหนัง โทเอะ สตูดิโอ ที่เป็นโรงถ่ายหนังญี่ปุ่นโบราณเช่น โอชิน ซามูไรพ่อลูกอ่อน ก๊อตซิลา ไอ้มดแดง นินจา อะไรพวกนี้ 

ระหว่างที่ส่วนใหญของคณะ สนุกกับการแต่งชุดกิโมโนถ่ายภาพกัน เราก็เดินตระเวณดูรอบๆโรงถ่ายและเก็บภาพไป  









 กว่าจะออกจากโรงถ่ายก็เย็นมากแล้ว คณะเรามาทานข้าวเย็นที่ย่าน ชินไชบาชิ ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ของเมืองโอซาก้า  มื้อนี้เป็นบุปเฟ่ต์หม้อไฟ








คืนนี้และคืนถัดมา ได้นอนโรงแรมที่วิวเมืองสวยมาก ไม่ต้องหลับต้องนอนกันละนะขอเก็บภาพให้เสร็จก่อน โชคดีที่ติดขาตั้งกล้องยัดใส่กระเป๋าเดินทางมาด้วย ได้ใช้ประโยชน์คุ้มค่าตอนนี้แหละ ทริปนี้กะแล้วว่าคงไม่ได้ถ่ายอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแน่ ดังนั้นเลยเลือกใช้กล้องโอลิมปัส OMD ทำให้ใช้ขาเล็กได้







เช้านี้กะว่าจะรีบตื่นแต่เช้าไปเดินชมเมืองยามเช้าซะ หน่อย ฝนดันตกซะนี่ เปลี่ยนเป็นเก็บภาพในห้องอาหารในโรงแรมแทนแล้วกัน 










 วันนี้เราไปชม ปราสาทโอซาก้า ที่ถือว่าเป็นสัญญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของ โชกุน "ฮิเดโยชิ โตโยโตมิ" เป็นตึกห้าชั้น โชคไม่ดีวันนี้ฝนตกแต่เช้า ท้องฟ้าขาวมัวซัวทำให้ภาพปราสาทดูไม่สวย ภายในบางชั้นก็ห้ามถ่ายภาพ 






นักท่องเที่ยวเยอะมาก ที่อยากถ่ายก็ห้ามถ่าย หันมาถ่ายตุ๊กตานักรบบูชิโดแทนก็ได้









 มือ้กลางวัน เราไปทานราเมนทีวีแชปเปี้ยนเจ้าดีง ที่ย่านชินไชบาชิ 






 ทานเสร็จ ก็เป็นรายการช้อปแหลก คนอื่นเค้าซื้อขนกันเป็นถุงๆ เราไม่ได้อะไรเพราะมัวเดินถ่ายภาพ 






 เดินกันจนเป๋ กลับมาเจอที่จุดนัดพบ คือร้านอาหารมื้อเย็นคือ อาหารที่ว่าด้วยปูฮอกไกโดเป็นส่วนประกอบ ตั้งแต่ปูดิบแบบซาชิมิ จนปูนึ่งและข้าวปั้นเนื้อปู

เสียดายที่แพ้ปู ลองทานไปชิ้นเดียวคันคอหน้าแดง ไม่ไหวต้องสละสิทธิ์ให้คนอื่นไปด้วยความเสียดาย






 เช้าวันที่สี่ แดดดีสว่างสดใส ได้ภาพจากห้องนอนยามเช้าไปก่อนที่จะออกไปเดินรอบๆโรง แรม 



 เก็บภาพและเก็บของเพื่อย้ายโรงแรม ก่อนไปทานข้าวขอเดินดูอะไรรอบๆโรงแรมหน่อย พึ่งรู้ว่าหน้าโรงแรมอยู่กลางแหล่งธุรกิจใหญ่ ผู้คนเดินไปทำงานกันอย่างเร่งรีบ น่าจะมีแค่เราที่เดินลอยชายชิวชิวคนเดียว






วันนี้อากาศดีค่อนข้างเย็น ทริปวันนี้ไปสวนสนุก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ไม่รู้จะถ่ายอะไร คนเยอะมากเข้าเล่นอะไรก็ขี้เกียจต่อแถว เดินไปเดินมา ดีว่าอากาศหนาวเย็นสบาย  









 เที่ยงก็ทานข้าวกันในสวนสนุกนี้ 




 ช่วงบ่ายค่อยยังชั่ว ไปจองที่นั่งดูโชว์ อันเดอร์วอเตอร์ ยิงกันสนั่นจอ 










 เราอยู่กันที่สวนสนุกยูนิเวอร์แซลจนเย็น ไมได้ภาพเป็นเรื่องเป็นราว อากาศเริ่มเย็นกว่า3วันที่ผ่านมา บ่ายมีฝนโปรยลงมานิดหน่อยเพิ่มความหนาวให้อีกนิด

จนเย็นกลับออกมา มื้อเย็นไปทานอาหารร้านอาหารอร่อยขึ้นชือ ที่ต้องจองที่ไว้ล่วงหน้า ทุกมื้อเจ้าภาพจัดให้อย่างหรูหราเต็มที่อย่ างน่าประทับใจจริงๆ ก่อนเข้าร้านยังพอมีเวลาเล็กน้อย แยกย้ายกันช้อปอีกนิด เราตรงดิ่งไปร้านยูนิโคล ราคาสินค้าจะถูกกว่าที่เมืองไทย 30% ได้เสื้อแจ๊กเก็ตขนเป็ดมา 1 ตัว เสื้อกั๊กขนเป็ด 1 ตัว กางเกง 1 ตัว สบายตัวกระเป๋าเบาไปเลย และเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อเครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่น มา 3-4 แพค



 จนเย็นกลับออกมา เดินทางมาพักที่ คันไซ ใกล้สนามบิน

คันไซ ต่างจากเกียวโต ที่ยังมีสภาพเป็นเมืองเก่าโดย ได้รับการอนุรักษ์เมืองเก่าเป็นอย่างดี ส่วนคันไซ เป็นเมืองท่ามีสนามบินคันไซ สนามบินใหญ่ สภาพเมืองนี้ส่วนใหญ่จึงกลายเป็นเมืองอุตสาหกรรม ภาพชุดนี้ถ่ายจากบนรถที่วิ่งบนทางด่วนลอยฟ้ามีแผงกั้ นบังตาเป็นระยะ

จากหน้าต่างห้องนอนวันนี้ มองเห็นแนวต้นไม้ที่ใบไม้กำลังเริ่มเปลี่ยนสี รีบอาบน้ำแต่งตัวเก็บกระเป๋า ลงมาเดินโฉบรอบๆโรงแรมซะหน่อย ก่อนเข้ามาทานอาหารเช้าที่ในโรงแรม 






 วันสุดท้ายไม่มีโปรแกรมอะไร แต่ให้คณะทัวร์ช้อปปิ้งที่ เอาท์เล็ต คันไซ เป็นการส่งท้าย หลังจากช้อปกันสะบักสะบอมที่โอซาก้าไปแล้ว เดินละลายทรัพย์ได้เสื้อสเวตเตอร์ มา 1 ตัว และกระจุ๊กกระจิกที่ร้าน 100 เยน เทเงินเยนให้หมดประเป๋าส่งท้ายก่อนเดินทางไปสนามบินคันไซ เหินฟ้ากลับไทย 






เจ้าป้า พาเที่ยว โอซาก้า เกียวโต นารา ก็ขอจบทริปที่อยู่ดีกินดีแต่เพียงแค่นี้ ปิดท้ายด้วยภาพของกินเล่นที่เยาวชนญี่ปุ่นชื่นชอบกัน มากคือ แตงญี่ปุ่นดอง





ขอบคุณที่ติดตามชมจนจบค่ะ





No comments:

Post a Comment

ผ่านมาแล้วอย่าผ่านเลยไป แวะทักทายกันสักนิด......